HOME ISSUE

SECTION

ABOUT

BEYOND BOUNDARIES


Electric Seoul

เมืองหลวงของเกาหลีใต้ไม่ได้ใช้วิถีเดิมๆ ในการเชิดชูอัตลักษณ์และวัฒนธรรมของตน ตรงกันข้าม กรุงโซลทุ่มให้กับเทคโนโลยีสามมิติ พื้นที่การแสดงลํ้าสมัยและจอ LED ลอยนํ้าขนาดยักษ์เพื่อเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นเมืองหลวงแห่งอุตสาหกรรมบันเทิงของเอเชีย

กรุงโซลได้ผนวกเอาการออกแบบลํ้าสมัย เข้ากับเทคนิคแสงสีเสียงที่ก้าวหน้าที่สุดในโลก เพื่อยกศิลปะ แฟชั่นและดนตรีให้ก้าวหน้าขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง

     ทุกวันนี้ ใครก็ไม่อาจพูดได้ว่าเมืองหลวงของเกาหลีใต้เป็นเมืองที่จมอยู่กับอดีต กว่า 600 ปีมาแล้วที่โซลเป็นจุดศูนย์กลางทางการเมือง การค้า และวัฒนธรรมของคาบสมุทรเกาหลี ประวัติศาสตร์ของเมืองเก่าแก่แห่งนี้ยังคงโลดแล่นอยู่ภายในรั้ววัง วัดวาและพิพิธภัณฑ์ อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน แทบทุกๆ หนึ่งวังเก่าของเจ้าผู้ปกครองในอดีต จะปรากฏว่ามีตึกโครงเหล็กกับกระจกสมัยใหม่ล้อมรอบอีกเป็นร้อยภาพผู้มาสักการะศาลขงจื๊อ ถูกแทนที่ด้วยนักท่องเที่ยวผู้พิสมัยแบรนด์หรู ในขณะที่แสงของโคมน้อยหน้าวัดพุทธ ก็ดูด้อยรัศมีไปภายใต้แสงของหลอด LED ที่เจิดจ้าอยู่ตลอดช่วงถนน และเส้นขอบฟ้าของมหานครแห่งนี้

     ประชากรกว่าสิบล้านชีวิตในกรุงโซลล้วนมีคาถาประจำตัวอยู่บทหนึ่ง คือ ‘bali bali’ หรือ รีบ รีบ ซึ่งวัฒนธรรมเร่งด่วนนี้เองคือสิ่งที่พลิกโฉมหน้ากรุงโซลจากเมืองอันทรุดโทรมเพราะสงคราม ให้กลายเป็นมหานครที่ทันสมัย และมีเทคโนโลยีลํ้าหน้าที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

     ชีวิต ณ กรุงโซลในศตวรรษที่ 21 นั้นแสดงออกได้ชัดที่สุดด้วยโครงข่ายขนส่งสาธารณะที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง อินเตอร์เน็ตบรอดแบนด์ที่รวดเร็วตลอดจนศูนย์แสดงศิลปวัฒนธรรม และความบันเทิงที่ก้าวหน้าที่สุด โซลเป็นเมืองที่เปี่ยมด้วย ‘ประจุไฟ’ อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะมาจากสาธารณูปโภค หรือพลังงานของคนในเมืองเองก็ตาม

     ตอนนี้เป็นช่วงเวลาอันเหมาะอย่างยิ่งแก่การไปเยี่ยมเยือนเกาหลีใต้ เพราะนักท่องเที่ยวจะสามารถสัมผัสความเป็นหนึ่งทางเทคโนโลยีของประเทศนี้ได้ด้วยตนเอง แหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ ทั่วกรุงโซลได้ผนวกเอาการออกแบบลํ้าสมัย เข้ากับเทคนิคแสงสีเสียงที่ก้าวหน้าที่สุดในโลก เพื่อยกศิลปะ แฟชั่น และดนตรีให้ก้าวหน้าขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง

     การผจญภัยในสวรรค์เทคโนโลยีแห่งนี้จะเริ่มขึ้นทันทีที่แตะท่าอากาศยานนานาชาติอินชอน และขึ้นรถไฟฟ้าสายด่วนเข้าสู่ใจกลางโซล หลังจากนั้นนักท่องเที่ยวอาจใช้เวลาสักวันหนึ่งเพื่อเยี่ยมชมย่านที่ทันสมัยที่สุดของเมือง โดยเริ่มจากเดินชมการแสดงงานออกแบบที่จัดขึ้นภายในโถงนิทรรศการลํ้ายุคก่อนจบวันด้วยการเดินเล่นชมพระอาทิตย์ตกดินที่เกาะเทียมสุดตระการตาทั้งสามเกาะบริเวณริมแม่นํ้าระหว่างวันอาจเข้าไปเสพ K-pop ให้หนำใจ ณ แหล่งท่องเที่ยวที่จะทำให้ผู้มาเยี่ยมชมรู้สึกว่าได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในคอนเสิร์ตของศิลปินในดวงใจจริงๆ


เทคโนโลยีผสานการท่องเที่ยว

     มอรีน โอคราวลีย์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารแห่งองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวกรุงโซล กล่าวว่าเทคโนโลยีเป็นหัวใจสำคัญของภาพลักษณ์กรุงโซล

     “คนรู้จักประเทศเกาหลีใต้เยอะ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากประเทศในแถบเอเชีย พวกเขาจะรู้สึกว่าเกาหลีใต้หมายถึงความโมเดิร์น ความนำเทรนด์ และเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าอย่างมาก”

     แต่ก่อนจะออกท่องมหานครอันเพียบพร้อมไปด้วยเทคโนโลยีนี้ มีเคล็ดลับหลายประการที่จะทำให้ประสบการณ์ท่องกรุงโซลประทับใจไม่มีวันลืม

     อย่างแรก ควรซื้อบัตร T-money ซึ่งหาซื้อได้ที่ตู้ขายตั๋วที่ชานชาลารถไฟของสนามบิน เพราะบัตรนี้สามารถใช้จ่ายค่าขนส่งสาธารณะในเมืองได้เกือบทุกประเภท ตั้งแต่รถไฟใต้ดิน รถประจำทาง ไปจนถึงแท็กซี่ นอกจากนี้ บัตรนี้ยังสามารถใช้ซื้อขนมขบเคี้ยวที่ร้านสะดวกซื้อหลายๆ สาขาได้ โดยเงินในบัตรสามารถเติมได้เรื่อยๆ ตลอดทริป และสามารถใช้ในทริปต่อไปได้อีกด้วย

     ระหว่างอยู่โซล ไม่ต้องกังวลว่าจะขาดการติดต่อกับเพื่อนฝูงญาติพี่น้อง เพราะโซลมีจุดปล่อยสัญญาณอินเทอร์เน็ตฟรีจำนวนมาก รวมถึงคาเฟ่แทบทุกแห่งก็มีบริการ Wi-Fi ให้ใช้ฟรี แต่ถ้าอยากมีอินเทอร์เน็ตติดตัวให้อุ่นใจ ก็เพียงซื้อซิมจาก Olleh หรือ SK Telcom ที่สนามบินอินชอนแล้วก็เตรียมสัมผัสกับระบบ 4G ที่เร็วที่สุดแห่งหนึ่งในโลกได้

     เครือข่ายอินเทอร์เน็ตเหล่านี้จะยิ่งมีประโยชน์อย่างมาก เมื่อประกอบเข้ากับการดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นบางตัวที่ออกแบบมาเพื่อช่วยสร้างความสบายให้กับการท่องเที่ยวในโซล เช่นองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลีใต้ได้สร้าง Visit Korea App ขึ้นมาเพื่อเป็นไกด์ให้แก่ผู้มาเยือน โดยเน้นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม และข้อมูลที่พักและร้านอาหาร นอกจากนั้น เนื่องจากระบบขนส่งมวลชนในกรุงโซลค่อนข้างซับซ้อนด้วยเส้นทางรถไฟฟ้าใต้ดินกว่า 10 สาย และรถประจำทางอีกนับไม่ถ้วน แอพพลิเคชั่นอย่าง Seoul Bus และ Jihachul ซึ่งมีทั้งแผนที่และข้อมูลตารางเดินรถ จะช่วยลดปัญหาในเรื่องการเดินทางได้มาก อีกอย่างหนึ่ง ด้วยเหตุที่ชาวโซลอาจไม่ได้พูดภาษาอังกฤษได้ทุกคน และยิ่งไม่พูดภาษาไทย แอพพลิเคชั่นแปลภาษาไทย-เกาหลี ก็อาจเป็นประโยชน์เหมือนกัน แล้วก็อย่าลืมพกไม้เซลฟี่ไว้ถ่ายภาพอัพโหลดขึ้นสู่โซเชียล มีเดียด้วย

     เมื่อรู้ข้อมูลพื้นฐานครบถ้วนแล้ว ก็คว้าโทรศัพท์สมาร์ทโฟนแล้วมุ่งหน้าสู่กรุงโซลได้เลย


Dongdaemun Design Plaza

     ศูนย์การค้าครบวงจรรูปทรงลํ้ายุค ณ ใจกลางย่านสำคัญของโซลที่ได้ปฏิวัติวงการการออกแบบของเกาหลีใต้มาแล้ว แม้ย่านทงแดมุนจะเป็นแหล่งอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มระดับประเทศมานานแล้วแต่ก่อนหน้านี้ ย่านนี้ยังไร้ระเบียบและมีแต่โรงงานสกปรกและแผงขายกระเป๋าทำปลอม ที่ใจกลางย่านมีสนามเบสบอลซึ่งทรุดโทรมจนไม่เหลือเค้าความรุ่งเรืองในอดีต จวบจนปี 2013 ย่านทงแดมุนจึงได้รับการพลิกโฉมให้กลายเป็นศูนย์กลางของดีไซเนอร์ และนักสร้างสรรค์รุ่นใหม่ โดยมีจุดเริ่มที่การเปิด Dongdaemun Design Plaza (DDP) นั่นเอง

ที่มา: Dongdaemun Design Plaza (DDP)

     คิม แฮ ซู จากมูลนิธิทงแดมุนดีไซน์ ซึ่งเป็นหน่วยงานบริหารของ DDP กล่าวว่า อาคารนี้ได้พลิกโฉมวงการแฟชั่นเกาหลีใต้ พร้อมกับได้คืนชีวิตให้กับเศรษฐกิจในท้องถิ่น

     “DDP ช่วยทำให้ย่านกลับมาคึกคักอีกครั้ง” คิมอธิบายพร้อมเสริมว่าตั้งแต่ศูนย์การค้าแห่งนี้เปิดทำการ ดีไซเนอร์จำนวนมากก็เข้ามาเปิดร้านของตัวเองในห้างสรรพสินค้าทั่วย่าน

     รูปร่างหน้าตาของ DDP นั้นไม่มีใครเหมือน และไม่เหมือนใครเลยทั้งในเกาหลีใต้ หรือกระทั่งในโลก โดยมันเป็นผลงานการออกแบบของ Saha Hadid สถาปนิกชื่อดังชาวอังกฤษเชื้อสายอิรัก อาคารหลักทั้งสามของ DDP หน้าตาเหมือนยานอวกาศของเอเลียน ซึ่งมีผิวด้านนอกบุด้วยแผ่นอลูมิเนียมกว่า 45,000 แผ่น ในยามคํ่าคืน ไฟสปอตไลท์ของสนามกีฬาเดิมซึ่งติดตั้งหลอด LED ใหม่ จะส่องแสงลงมายังสวนประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมทงแดมุนที่อยู่โดยรอบ ในขณะที่แปลงดอกไม้ LED ก็จะสว่างไสวขึ้นสร้างสีสันให้พื้นที่

     งานแสดงศิลปะและแฟชั่นนั้นไม่เคยขาดจากพื้นที่รอบ DDP โดยแต่ละงานจะจัดแสดงอยู่เป็นเวลา 2-3 เดือน ดังนั้น ควรเช็คล่วงหน้าว่าอะไรกำลังจัดแสดงในช่วงที่ไป พื้นที่เหล่านี้ไม่เหมือนหอศิลป์หรือแกลเลอรีทั่วไป เพราะงานนิทรรศการอาจจัดขึ้นที่ไหนก็ได้ ไม่ว่าจะนอกหรือในอาคาร หรือกระทั่งตามผนังโค้งวนของอาคาร

     งานที่เป็นสัญลักษณ์สำคัญที่สุดของ DDP คงเป็นอะไรไม่ได้นอกจาก Seoul Fashion Week ที่จัดขึ้นปีละสองครั้งในช่วงเดือนมีนาคม และตุลาคม ซึ่งดีไซเนอร์เกาหลีใต้ทั้งหน้าเก่าหน้าใหม่ จะมารวมกันเพื่อแสดงผลงานล่าสุด โดยก่อนจะย้ายมาจัดถาวรที่ DDP นั้น โซล แฟชั่น วีค ไม่มีสถานที่จัดงานตายตัวจึงต้องย้ายไปจัดที่พื้นที่ต่างๆ อยู่หลายปี สำหรับดีไซเนอร์แล้วการที่สามารถใช้พื้นที่ ณ ใจกลางทงแดมุนเป็นพื้นที่จัดงานได้ถาวรนั้น ทำให้การจัดแฟชั่น วีคพัฒนาไปดีขึ้นอีกมาก

     ฮวาง แจ กึม ดีไซเนอร์อายุ 38 ปีเห็นว่า “พอมีสถานที่ประจำแล้ว ความเป็นไปได้มันเยอะกว่าเดิม เพราะคนเข้าถึงได้ง่ายมันทำให้แฟชั่น วีคกลายเป็นงานที่เปิดสำหรับทุกคน ไม่ใช่งานเฉพาะสำหรับคนในวงการ”


สัมผัสคลื่นวัฒนธรรมเกาหลี

     เมื่อราวทศวรรษที่แล้ว กระแสความนิยมเกาหลีใต้ถาโถมไปทั่วเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คลื่นวัฒนธรรมนี้ได้ช่วยแนะนำให้ผู้ฟังได้รู้จักวัฒนธรรมร่วมสมัยของเกาหลี และทำให้ชื่อดารานักร้องเกาหลีเป็นจำนวนมาก กลายเป็นคำสามัญประจำบ้านของคนในต่างประเทศ

     ผู้สังเกตการณ์ธุรกิจบันเทิงบางคนเชื่อว่าความสำเร็จในการส่งออกวัฒนธรรมนี้เอง ที่เป็นแรงผลักดันให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของเกาหลีใต้เติบโตอย่างมาก

     “สื่อโฆษณาใหญ่ที่สุดของโซลก็คือดนตรี เค-ป๊อบ และซีรีส์เกาหลี มันช่วยทำให้โซลดูเซ็กซี่น่าค้นหา และพาให้นักท่องเที่ยวเข้ามาอยู่เรื่อยๆ” เบอร์นี่ โช ประธาน DFBS Kollective หน่วยงานส่งเสริมศิลปะสัญชาติเกาหลีใต้กล่าว

     นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติหลายคนมาเกาหลีใต้เพื่อเยี่ยมเยือนฉากถ่ายทำของซีรีส์เรื่องโปรด ขณะที่อีกหลายคนมาเพื่อดูคอนเสิร์ตศิลปินในดวงใจ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากทุกคนอาจไม่โชคดีได้ตั๋วดั่งใจ แหล่งท่องเที่ยวใหม่ 3 แห่งในกรุงโซล จึงมีขึ้นเพื่อช่วยให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสคลื่นแห่งวงการบันเทิงเกาหลีใต้ ผ่านเทคโนโลยีแสงสีเสียงล่าสุดของประเทศ


SM Town

     เมื่อก้าวเข้าสู่อาคาร 6 ชั้นของ SM Town ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับศูนย์การค้า Coex Mall เพลงของ Girls’ Generation Exo หรือวงดนตรีอื่นๆ ในสังกัด S.M. Entertainment ก็จะกระหึ่มก้องโสตประสาททันที นักท่องเที่ยวจะได้พบห้องสมุดเพลงดิจิทัลคาเฟ่มิวสิควิดีโอ และร้านขายของที่ระลึกยอดนิยมอย่างปลอกหมอนพิมพ์ลายบอย แบนด์ แถมยังสามารถชมเทปบันทึกคอนเสิร์ตของศิลปินอันดับต้นๆ ของค่ายอย่าง Super Junior ฉายบนจอพาโนรามา เต็มอิ่ม 2 ชั่วโมงได้ทุกวันที่โรงละครของ SM ซึ่งแทบจะดีไม่แพ้การดูคอนเสิร์ตจริงๆ นอกจากนี้ ด้วยราคาเพียง 3,000 ดอลลาร์สหรัฐ นักท่องเที่ยวยังสามารถสร้างมิวสิควิดีโอระดับมืออาชีพ และก้าวขึ้นเป็นดาวดวงใหม่ในวงการเค-ป็อบได้ด้วยแพ็คเกจที่ครอบคลุมตั้งแต่การแต่งหน้า ทำผม เรียนเต้น เรียนร้อง ไปจนถึงชุดให้เช่า

ด้วยราคาเพียง 3,000 ดอลลาร์สหรัฐนักท่องเที่ยวสามารถสร้างมิวสิควิดีโอระดับมืออาชีพและก้าวขึ้นเป็นดาวดวงใหม่ในวงการเค-ป็อบได้ด้วยแพ็คเกจที่ครอบคลุมตั้งแต่การแต่งหน้า ทำผมเรียนเต้น เรียนร้องไปจนถึงมีชุดให้เช่าด้วย

ที่มา: K Live

K-Live

     แม้ Psy จะไม่ได้ออกทัวร์คอนเสิร์ตมากนักในช่วงหลัง แต่ภาพโฮโลแกรมของเขาก็ยังร้อง และเต้นท่าควบม้าอันเป็นเอกลักษณ์ของเพลง Gangnam Style อยู่บนเวทีของเค-ไลฟ์ ที่ตั้งอยู่บนชั้น 8 ของห้างสรรพสินค้า Lotte Fitin ในย่านทงแดมุน ในระหว่างที่รอเข้าชมคอนเสิร์ตโฮโลแกรมที่ล็อบบี้นักท่องเที่ยวอาจเต้นตามภาพศิลปินบนจอ โดยขยับตามแผ่นเหยียบบนพื้น (เหมือนแผ่นเต้นจากเกม Dance Dance Revolution) ซึ่งจะทำให้ลีลาการเต้นถูกฉายขึ้นบนจอใหญ่เคียงข้างศิลปิน แต่ถ้าอยากเป็นส่วนหนึ่งของคอนเสิร์ตโฮโลแกรม ภายในฮอลล์จัดแสดงจะมีบูทซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถถ่ายรูปหน้าตรงของตัวเอง เพื่อให้ถูกนำไปฉายซ้อนทับใบหน้าหนึ่งในบรรดาแดนเซอร์แบ็คอัพของ Psy ได้ด้วย

MBC Studio

     สถานีโทรทัศน์ MBC ของเกาหลีใต้ ได้สร้างความสำเร็จในหมู่ผู้ชมนานาชาติมาแล้วจากซีรีส์ระดับปรากฏการณ์อย่าง ‘แดจังกึม’ และ Coffee Prince แต่ในปัจจุบัน ผู้มาเยือนสตูดิโอใหม่ของเอ็มบีซีที่ Digital Media City สามารถเป็นส่วนหนึ่งของซีรีส์เกาหลีดังกล่าวได้เลย นักท่องเที่ยวสามารถทัวร์ฉากเสมือนจริงจากละครต่างๆ หรือถ่ายรูปตัวเองโดยมีภาพดิจิทัลของชุดย้อนยุคที่ปรากฏในละครฉายทับบนตัว หรืออาจเข้าไปในบูทถ่ายรูป และสัมผัสกับหน้าจอ interactive ซึ่งมีศิลปิน G-Dragon คอยส่งจูบหรือสอนร้องเพลง ในขณะที่นักท่องเที่ยวย่อมรู้ว่าปฏิสัมพันธ์กับดาราที่เกิดขึ้นเป็นผลลัพธ์ของเทคโนโลยีทางภาพ แต่เพื่อนๆ ทางบ้านอาจไม่รู้ก็ได้ จึงมีบริการช่วยให้นักท่องเที่ยวสามารถเก็บไฟล์วิดีโอรูปภาพ และสื่ออื่นๆ ที่ได้สัมผัสลงใน USB หรือพิมพ์ภาพลงกระดาษได้ด้วย

เกาะลอยนํ้า Some Sevit

     หากเสพเค-ป๊อบจนหนำใจแล้ว และอยากหาที่เงียบๆ ผ่อนคลาย สามารถมุ่งหน้าไปยังริมแม่นํ้าฮันทางใต้ใกล้กับสะพานพันโพ เพื่อพบกับ Some Sevit (ซอมเซบิท) หรือ ‘เกาะอันเรืองรอง’ ทั้งสาม ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมกลางนํ้าที่โมเดิร์นที่สุดของกรุงโซล

     สถาปัตยกรรมลอยนํ้านี้ได้แรงบันดาลใจมาจากดอกไม้บาน โดยสามารถปรับระดับความสูงได้ถึง 8 เมตร ขึ้นอยู่กับระดับนํ้าในแม่นํ้า โครงสร้างของอาคารทั้งหมดถูกควบคุมด้วยระบบ GPS และมีดาวเทียมคอยตรวจสอบระดับนํ้าเพื่อรักษาสมดุลของตัวอาคารไว้ ไม่ว่าแม่นํ้าฮันเชี่ยวกรากแค่ไหน ระบบรอกอันทันสมัยก็จะทำหน้าที่ยึดเกาะทั้งสามไว้ไม่ให้ลอยไปกับกระแสนํ้า

     อาคารอเนกประสงค์แต่ละหลังนั้นมีหน้าที่ใช้งานต่างกัน อาคารหนึ่งเป็นภัตตาคาร อีกอาคารเป็นแกลเลอรีซึ่งมองเห็นวิวแม่นํ้า ในขณะที่อีกอาคารเป็นสถานที่จัดการประชุมหรืองานแต่งงาน แต่ถ้าอยากจัดงานแต่งที่นี่ “คุณควรจองไว้ตั้งแต่วันนี้เลย” ลี ยอนซิก จาก บริษัท Hyosung ซึ่งบริหารดำเนินการซอมเซบิทกล่าว

     “แนวคิดของซอมเซบิทคือ เป็นพื้นที่บันเทิงสำหรับทุกคนในโซล ดังนั้นไม่วันไหนก็วันไหน จะมีงานสนุกๆ จัดขึ้นที่นี่อยู่ตลอด” ลีเสริม

ซอมเซบิทเป็นส่วนหนึ่งของโครงการบูรณะแม่นํ้าฮันในปี 2009 ซึ่งมุ่งเปลี่ยนสวนสาธารณะรกเรื้อริมแม่นํ้าให้กลายเป็นพื้นที่สาธารณะเปี่ยมชีวิตชีวา

     ซอมเซบิทเป็นส่วนหนึ่งของโครงการบูรณะแม่นํ้าฮันในปี 2009 ซึ่งมุ่งเปลี่ยนสวนสาธารณะรกเรื้อริมแม่นํ้าให้กลายเป็นพื้นที่สาธารณะเปี่ยมชีวิตชีวา โครงการนี้ประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง ในช่วงเดือนที่อากาศดี (พฤษภาคม-กันยายน) สวนสาธารณะหน้าเกาะจะเต็มไปด้วยคู่รักหนุ่มสาว และครอบครัวชาวเมืองซึ่งมาปูผ้านั่งเล่นผ่อนคลายอารมณ์บนพื้นหญ้า ระหว่างชมคอนเสิร์ตหรือกีฬาจากจอยักษ์ขนาด 1,200 นิ้วบนเกาะ

     ในช่วงคํ่า ซอมเซบิทจะเรืองรองด้วยแสงไฟจากหลอด LED ซึ่งเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ นํ้าพุโค้งพุ่งเป็นสายจากสะพานพันโพ ขณะที่แสงไฟส่องลงกระทบผิวแม่นํ้า

     “ที่นี่ทำให้คุณสามารถสัมผัสธรรมชาติ สายนํ้า สายลมได้แม้ในใจกลางเมือง มันเป็นจุดหมายทางวัฒนธรรมสำหรับทุกคนในโซล” ลีกล่าวทิ้งท้าย

Essentials


Dongdaemun Design Plaza (DDP)

281 Eulji-ro, Jung-gu,Seoul.
www.ddp.or.kr

K-Live

100-196 9F LOTTE FITIN, 264 6-ga Eulji-ro Jung-gu, Seoul.
www.klive.co.kr

MBC Studio

267 Seongam-ro, Mapo-gu, Seoul.
www.imbc.com

SM Town

513, Yeongdong-daero, Gangnam-gu, Seoul.
www.smtownland.com

Some Sevit

683 Olympic-daero, Seocho-gu, Seoul.
www.somesevit.com