HOME ISSUE

SECTION

ABOUT

SERVING YOU


Rising Opportunity

KKP G-HYB-H-UI กองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศแบบ High Yield เพื่อสร้างผลตอบแทนและกระจายความเสี่ยงเมื่อเศรษฐกิจโลกกำลังส่งสัญญาณฟื้นตัว

*กองทุนนี้ไม่ถูกจำกัดความเสี่ยงด้านการลงทุนเช่นเดียวกับกองทุนรวมทั่วไป จึงเหมาะกับผู้ลงทุนที่รับผลขาดทุนระดับสูงได้เท่านั้น
*กองทุนนี้ลงทุนกระจุกตัวในตราสารที่มีความเสี่ยงด้านเครดิตและสภาพคล่อง


การระดมฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ทั่วโลกในขณะนี้เปรียบได้กับอัศวินม้าขาวที่มาช่วยให้เศรษฐกิจโลกพลิกฟื้น ซึ่งย่อมหมายถึงกระแสเงินสดที่จะทำให้บริษัทเอกชนคล่องตัว เพิ่มโอกาสในการลงทุน ขยายกิจการ และลดความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เกียรตินาคินภัทร จำกัด จึงได้ออกผลิตภัณฑ์ KKP G-HYB-H-UI กองทุน High Yield ตราสารหนี้ต่างประเทศ เปิดขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่พิเศษ เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางให้นักลงทุนใช้คว้าโอกาสจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่กำลังเกิดขึ้น พร้อมกับกระจายความเสี่ยงตามหลักการ Asset Allocation ที่เป็นเสมือนหัวใจของนักลงทุน

เศรษฐกิจที่กำลังฟื้น

การออกนโยบายฉีดวัคซีนโควิด-19 ในประเทศเศรษฐกิจหลัก เช่น สหรัฐอเมริกา ยุโรป และจีน ทำให้ประชาชนสามารถกลับมาทำกิจกรรมปกติได้มากขึ้น นำไปสู่วัฏจักรการเพิ่มการลงทุนของบริษัทเอกชน และหนึ่งในแหล่งเงินทุนก็คือการออกตราสารหนี้ รวมถึงตราสารหนี้ประเภท High Yield นักลงทุนอาจรู้สึกว่าตราสารหนี้ประเภทนี้จะมีอันดับเครดิตที่ต่ำกว่า Investment Grade หรือรองจากเกรด BBB ลงมา อย่างไรก็ตามไม่ได้หมายความว่าตราสารหนี้ High Yield ไม่เหมาะแก่การลงทุน เพราะนอกจากจะให้ดอกเบี้ยที่สูงกว่ากลุ่ม Investment Grade แล้ว บริษัทที่ออกตราสารหนี้กลุ่มนี้บ่อยครั้งก็เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียง เช่น Netflix ก็อาจออกตราสารหนี้ซึ่งถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มนี้จากสภาพคล่องทางการเงินหรือผลประกอบการในขณะนั้นได้ หรือบริษัทดาวรุ่งซึ่งมักเรียกกันในวงการว่า rising star ที่บริษัทอยู่ในช่วงลงทุนสูงก็อาจออกตราสารหนี้ซึ่งอยู่ในกลุ่มนี้เพื่อการเติบโตอย่างก้าวกระโดดได้เช่นกัน

กองทุนตราสารหนี้ KKP G-HYB-H-UI เป็นกองทุน High Yield ตราสารหนี้ต่างประเทศ เปิดขายให้ผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่พิเศษ ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ช่วยเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทน และกระจายความเสี่ยงให้แก่นักลงทุน

ทางเลือกกระจายสินทรัพย์

สำคัญยิ่งกว่านั้นคือ กลยุทธ์สำคัญของนักลงทุนควรเป็นการกระจายสินทรัพย์เพื่อลดความเสี่ยงจากการลงทุน หรือ Asset Allocation ดังนั้น นอกเหนือจากการลงทุนในหุ้นทั้งในและนอกประเทศแล้ว การลงทุนในสินทรัพย์อื่น เช่น พันธบัตรรัฐบาล หรือตราสารหนี้ย่อมช่วยเพิ่มโอกาสสร้างผลกำไรได้โดยมีความผันผวนที่น้อยกว่าหุ้น ข้อมูลบ่งชี้ว่าตราสารหนี้ประเภท High Yield มีค่าสหสัมพันธ์ (correlation) กับการลงทุนในหุ้นอยู่ที่ 0.7 หรือก็คือถ้าตลาดหุ้นมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น ตราสารหนี้ประเภท High Yield จะมีโอกาสเพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกันโดยเฉลี่ยราว 70% แต่พร้อมกันนั้นค่าความผันผวน (standard deviation) ของตราสารหนี้ประเภท High Yield กลับน้อยกว่าความผันผวนในตลาดหุ้นอย่างมีนัยสำคัญ เช่น ตลาดหุ้นอาจมีความผันผวนราว 17-18% ต่อปี แต่ตราสารหนี้แบบ High Yield อาจมีความผันผวนเพียง 7-8% ต่อปีเท่านั้น

ดูแลด้วยความเชี่ยวชาญ

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากความเสี่ยงสำคัญของการลงทุนในตราสารหนี้แบบ High Yield คือการผิดนัดชำระหนี้ของบริษัทผู้ออกตราสาร ดังนั้น ย่อมเป็นการดีกว่าที่จะลงทุนในกองทุนรวมที่มีความเชี่ยวชาญ กองทุนตราสารหนี้ KKP G-HYB-H-UI จึงได้เลือกลงทุนในกอง Janus Henderson Global High Yield Bond Fund ซึ่งดูแลโดย Henderson Management S.A. ที่มีจุดเด่นในการมองหาโอกาสลงทุนและวิเคราะห์ตราสารหนี้แบบรายตัว ติดตามความเสี่ยงหรือสัญญาณที่อาจเกิดวิกฤตจากการถือตราสารหนี้ตลอดเวลา และที่ผ่านมากองทุน Janus Henderson Global High Yield Bond Fund ก็ยังไม่เคยประสบกับภาวะ default หรือการผิดนัดชำระหนี้ของตราสารหนี้ที่ถือไว้เลย ช่วยทำให้นักลงทุนมีความมั่นใจว่าจะได้รับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว ทั้งนี้ กองทุนตราสารหนี้ KKP G-HYB-H-UI มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่า 90% ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ

ผู้ลงทุนที่สนใจกองทุนตราสารหนี้ KKP G-HYB-H-UI สามารถขอหนังสือชี้ชวน และข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ธนาคารเกียรตินาคินภัทร ทุกสาขา หรือ KKP Contact Center โทร. 02 165 5555และบริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร โทร. 02 305 9559 หรือ https://am.kkpfg.com หรือผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนที่ได้รับการแต่งตั้งตามหนังสือชี้ชวน

คำเตือน :

  • การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
  • ผู้ลงทุนควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้แนะนำการลงทุนหรือผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนที่ได้รับการแต่งตั้งก่อนตัดสินใจลงทุน
  • เนื่องจากกองทุนมีการลงทุนในต่างประเทศ กองทุนอาจมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงในเรื่องเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม รวมถึงความเสี่ยงที่เกิดจากกฎหมายที่เกี่ยวข้องของประเทศที่กองทุนไปลงทุนด้วย
  • กองทุนจะทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเกือบทั้งหมด โดยไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ กองทุนจึงอาจมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนในส่วนที่ไม่ได้ทำการป้องกันความเสี่ยงไว้ ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนได้รับผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ นอกจากนี้ การทำธุรกรรมป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนดังกล่าวอาจมีต้นทุน ซึ่งทำให้ผลตอบแทนของกองทุนโดยรวมลดลงจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น
  • การลงทุนหรือใช้บริการที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุนที่มีความเสี่ยงสูงหรือมีความซับซ้อนมีความแตกต่างจากการลงทุนหรือ ใช้บริการผลิตภัณฑ์ในตลาดทุนทั่วไป
  • กองทุนหลักมีการลงทุนในตราสาร non-investment grade /unrated ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงสูงขึ้นจากการไม่ได้รับชำระเงินต้นและดอกเบี้ย
  • กองทุนอาจลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมซึ่งอยู่ภายใต้การบริหารจัดการของ บลจ.เกียรตินาคินภัทร ได้ตามอัตราส่วนที่กำหนด โดย บลจ.เกียรตินาคินภัทร จะจัดระบบงานที่ป้องกันธุรกรรมที่อาจก่อให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์อันอาจเกิดจากนโยบายการลงทุนที่เปิดให้มีการลงทุนในกองทุนรวมภายใต้การบริหารจัดการของบริษัทจัดการเดียวกัน
  • กองทุนนี้ไม่ถูกจำกัดความเสี่ยงด้านการลงทุนเช่นเดียวกับกองทุนรวมทั่วไป จึงเหมาะกับผู้ลงทุนที่รับผลขาดทุนระดับสูงได้เท่านั้น
  • กองทุนนี้ลงทุนกระจุกตัวในตราสารที่มีความเสี่ยงด้านเครดิตและสภาพคล่อง จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก
  • โปรดศึกษาคำเตือนที่สำคัญอื่นได้ในหนังสือชี้ชวนส่วนข้อมูลกองทุนรวม