HOME ISSUE

SECTION

ABOUT

THE FAST LANE


The Drive To Be Different

หากจะพูดถึงเรื่องรถยนต์ และธุรกิจซูเปอร์คาร์ในเมืองไทยในขณะนี้ คงต้องกล่าวว่าไม่มีใครแซงหน้า บริษัท นิช คาร์ จำกัด (Niche Cars Co., Ltd.) ลูกค้ากว่าสิบปีของธนาคารเกียรตินาคิน ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายสุดยอดซูเปอร์คาร์แสนโฉบเฉี่ยว Lamborghini และ McLaren อย่างเป็นทางการเพียงเจ้าเดียวของประเทศ

เราดูแลลูกค้าแบบ “นิช” จริงๆ แบบตามตัวบุคคล บริการอย่างหนึ่งที่เรามีให้และที่อื่นไม่มี ก็คือการรับแลกรถเก่าทุกยี่ห้อมาเปลี่ยนกับรถใหม่ ซึ่งเราจัดการให้ทุกอย่าง ตั้งแต่การเอารถเข้ามาจนจบบริการ

     เบื้องหลังความแรงของธุรกิจนี้คือ วิทวัส ชินบารมี กรรมการผู้จัดการ บริษัท นิช คาร์ จำกัด ผู้เป็นทายาทรุ่นที่สองที่บริหารธุรกิจนำเข้าและจำหน่ายรถซูเปอร์คาร์ โดยด้วยวัยเพียง 33 ปี วิทวัส ก็รับสืบทอดธุรกิจต่อมาจากบิดา คือ เสรี รักษ์วิทย์ นักธุรกิจผู้ครํ่าหวอดอยู่ในวงการซื้อขายรถยนต์มากว่า 30 ปี และต่อยอดธุรกิจจากการซื้อขายรถยนต์ธรรมดาไปสู่ความเป็น “นิช” หรือตลาดเฉพาะที่มากมูลค่า

     นิช คาร์นั้นเริ่มก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ 15 ปีที่แล้ว โดยนอกเหนือจากการจำหน่าย Lamborghini ที่ยอดขายเป็นที่หนึ่งในกลุ่มรถซูเปอร์คาร์ และ McLaren ซูเปอร์คาร์คุณภาพจากอังกฤษแล้ว ปัจจุบัน นิช คาร์ยังจำหน่ายรถสปอร์ต Lotus และเรือยอร์ช Princess อีกด้วย

     “ต้องบอกว่าเมื่อ 15 ปีที่แล้ว ตลาดบนไม่ได้แพร่หลายขนาดนี้ในเมืองไทย พอเราเห็นรถซูเปอร์คาร์คันหนึ่งบนท้องถนนสมัยนั้นก็ตื่นเต้นแล้ว ทางเราเองที่เป็นคนปลุกตลาดนี้ขึ้นมา ซึ่งปัจจุบันเราขาย Lamborghini คันใหม่ได้ถึง 50 คันต่อปี”

     ด้วยไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปของคนรุ่นใหม่ วิทวัสกล่าวว่า “รถสมัยนี้มันเป็นเฟอร์นิเจอร์ เป็นสิ่งที่สื่อว่าเราประสบความสำเร็จมาจุดหนึ่งแล้วนะ และยังเป็นของเล่นได้อีก เพราะมันมีความเร็วมาเกี่ยวด้วย ผู้ชายเรา ผมว่ามันก็มี 5 อย่าง นาฬิกา เรือ พระ รถ และปากกา ผมว่ารถยนต์นี่แหละคือที่สุดแล้วสำหรับการให้รางวัลตัวเองและการแสดงความเป็นตัวของตัวเอง”

     ในขณะที่กลุ่มผู้มีฐานะในเมืองไทยหันมาสนใจซื้อรถตลาดบนกันมากขึ้น รถซูเปอร์คาร์ก็สามารถหาซื้อกันได้ง่ายขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก ถึงอย่างนั้น วิทวัสได้เปิดเผยถึงเคล็ดลับที่ทำให้ นิช คาร์ ยังคงครองความเป็นที่หนึ่งในตลาดซื้อขายรถที่มีการแข่งขันเพิ่มสูงขึ้นนี้

     “ด้วยความเป็นนิช คาร์ เราดูแลลูกค้าแบบ “นิช” จริงๆ แบบตามตัวบุคคล บริการอย่างหนึ่งที่เรามีให้และที่อื่นไม่มี ก็คือการรับแลกรถเก่าทุกยี่ห้อมาเปลี่ยนกับรถใหม่ ซึ่งเราจัดการให้ทุกอย่าง ตั้งแต่การเอารถเข้ามาจนจบบริการ และเรายังได้รับการสนับสนุนจากเกียรตินาคินเอง ซึ่งรับจัดไฟแนนซ์ให้ลูกค้าเรามีทางเลือกยาวถึง 7 ปี”

     วิทวัสบอกว่า จุดเด่นอีกประการของ นิช คาร์ คือ มาตรฐานสินค้า และการบริการหลังการขายที่พิถีพิถันและครบเครื่อง โดยทางนิช คาร์ เสาะหาช่างชาวอิตาเลียนผู้มีประสบการณ์ตรงกว่า 10 ปี จากบริษัท Lamborghini มาดูแลสภาพรถของลูกค้า

     “เรามีเครื่องมือที่ตรงกับจุดประสงค์การซ่อมรถ อย่างการถอดเครื่อง เราจะมีเครื่องมือพิเศษโดยเฉพาะ ถ้าเป็นที่อื่นอาจจะใช้เวลา 5 วัน แต่ของเราใช้แค่วันเดียว และรถก็จะไม่ชํ้ามาก แต่ต้องบอกว่าเราจะไม่รับซ่อมรถที่ซื้อมาจากที่อื่น เพราะว่ารถที่เราขายเองเป็นรถใหม่ที่สั่งตรงมาจากโรงงานต่างประเทศ ส่วนรถที่มาจากเกรย์มาร์เก็ต 90 เปอร์เซ็นต์เป็นรถเก่าใช้มาแล้ว ราคาถูกกว่าเราจริง แต่ปัญหาเยอะ และเรื่องมาตรฐานสินค้า และการเซอร์วิสดูแล ก็คนละระดับกับเรา”

     ถึงตอนนี้ วิทวัสช่วยแนะนำหัวใจการดูแลซูเปอร์คาร์ ไว้ว่า การดูแลรถซูเปอร์คาร์นั้น “ละเลยไม่ได้” โดยเฉพาะยางที่ต้องเปลี่ยนทุก 2 ปี และแบตเตอรี่ ซึ่งสำคัญมากและต้องดูแลเป็นพิเศษ

    “เราจะมี Maintenance list ให้ว่าปีแรกต้องทำอะไร มันจะมีทั้งระยะทางและเวลา ซึ่งถ้าอย่างไหนถึงก่อน ก็ต้องเข้ารับการตรวจเช็ค เมื่อลูกค้าซื้อรถซูเปอร์คาร์ แล้วใช้งานมันหนักอย่างเต็มประสิทธิภาพ เราก็ไม่ควรละเลยการดูแลมัน ปกติเวลาลูกค้าซื้อ เราก็แนะนำให้ติดฟิล์มก่อน ซึ่งจะป้องกันรอยหินดีดหรือขูดต่างๆ ซึ่งตอนนี้เราดีลกับ Autozkin ซึ่งใช้คอมพิวเตอร์ในการตัดฟิล์ม และเป๊ะมากกว่าการตัดโดยมือคนเหมือนที่อื่นๆ นอกจากนี้เราก็แนะนำให้ซื้อที่ชาร์จแบต ซึ่งลูกค้าสามารถเสียบทิ้งไว้ได้ตลอด โดยที่ไม่ต้องสตาร์ทรถบ่อยๆ สองเดือนใช้รถทียังได้เลย”

     วิทวัสแนะนำเพิ่มเติมว่า ก่อนที่จะขับรถด้วยความเร็วสูง ให้วิ่งรถสักประมาณ 3,000 รอบเครื่องยนต์ เป็นระยะสัก 3-5 กิโลเมตรก่อน “เพื่อให้นํ้ามันขึ้นไปถึงอุณหภูมิที่มันจะสามารถรักษาเครื่องยนต์และทุกอย่างได้เต็มที่ก่อน เพราะนํ้ามันเครื่องตอนเย็นกับร้อนนั้นมีประสิทธิภาพการทำงานได้ไม่เหมือนกัน” 

     ในอนาคตอันใกล้นี้ นิช คาร์ กำลังขยายธุรกิจ โดยเปิดโชว์รูมแห่งใหม่ ซึ่งเป็นอาคารสี่ชั้น ตั้งอยู่บนพื้นที่ 5 ไร่ รวมพื้นที่กว่า 25,000 ตารางเมตร ใกล้มอเตอร์เวย์ วิทวัสบอกว่า ณ โชว์รูมใหม่แห่งนี้ จะมีโรงซ่อมดูแลที่ใหญ่ขึ้นและอุปกรณ์ที่ครบครันทันสมัย ร้านอาหารคุณภาพครบวงจร สตูดิโอถ่ายภาพอย่างดีสำหรับเวลาลูกค้าส่งรถ ห้องรับรองลูกค้า และปั๊มนํ้ามันสำหรับคนในองค์กรและลูกค้า ซึ่งจะมีนํ้ามัน 98 สำหรับรถซูเปอร์คาร์โดยเฉพาะ ยิ่งกว่านั้นยังมีโชว์รูมเรือยอร์ชอีกด้วย 

     “อีกหน่อยเราก็จะมีบริการถ่ายรูปให้กับลูกค้าเวลาส่งรถ ซึ่งมันจะทำชุ่ยๆ ไม่ได้ เราจะทยอยเปิดโชว์รูมทีละตึก ผมว่าทั้งหมดน่าจะเสร็จพร้อมปลายปีนี้ ทาง CEO ของ Lamborghini ที่อิตาลี ได้แจ้งเรามาแล้วว่า ต้องการมาร่วมงานเปิดกับเราด้วย” วิทวัสกล่าวอย่างตื่นเต้น ก่อนที่จะทิ้งท้ายว่า 

     “สำหรับผม ความภูมิใจในการทำธุรกิจนี้คือ การที่เราได้มอบความสุขให้กับลูกค้า ซึ่งต่างจากคนสมัยก่อนที่คนตั้งใจทำงาน หาเงิน แต่กลับไม่ค่อยรู้จักใช้”