SECTION
ABOUTADVANCE NOTICE
The Master of None
Welcome to Optimise
อิทธิพลในด้านพุทธศาสนาของท่านพุทธทาสภิกขุนั้นไม่เป็นที่กังขาในสังคมไทย
ยากจะหาภิกษุใดผลิตงานที่มีปริมาณมากอีกทั้งผูกโยงกับความเคลื่อนไหวของสังคมอย่างใกล้ชิดเท่ากับท่านพุทธทาส กล่าวกันว่าคนไทยสมัยก่อนมักพูดกันว่า “ไม่มีหนังสือธรรมะอ่าน” แต่หลังจากการทำงานเผยแผ่ตลอด 67 พรรษาโดยปราศจากความช่วยเหลือจากอินเทอร์เน็ตและโซเชียลมีเดียของภิกษุผู้เรียกตนว่า ‘ทาส’ ของพระพุทธเจ้าผู้นี้แล้ว คำพูดนั้นก็ไม่เป็นจริงอีกต่อไป
อันที่จริง ผลงานของท่านพุทธทาสไม่ว่าในรูปแบบลายลักษณ์อักษร โสตทัศน์ และสื่อธรรมต่างๆ นับจำนวนได้ถึงกว่าสามแสนชิ้น และภารกิจการศึกษาค้นคว้าและเผยแผ่งานของท่านยังคงเป็นงานเต็มเวลาของหอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ ที่สวนรถไฟ (หรือที่รู้จักกันในนามของ ‘สวนโมกข์กรุงเทพฯ’) ซึ่งตั้งขึ้นมาเมื่อ 10 ปีที่แล้วตราบจนปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม เช่นเดียวกับปกของ Optimise ฉบับนี้ ซึ่งเป็นภาพถ่ายพอร์ตเทรตครั้งสุดท้ายของท่านพุทธทาส จากฝีมือคุณยรรยงค์ มังกรพันธุ์ ศิลปินช่างภาพโฆษณารวมถึงภาพนู้ด ที่ถ่ายภาพท่านพุทธทาสขณะห่มเพียงอังสะผืนบาง
...เบื้องหลังความเป็น ‘พระ’ ของท่านพุทธทาส ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยความเป็นมนุษย์
หากได้ศึกษาจะพบว่า แม้ไม่นับเรื่องศาสนา เรื่องราวชีวิตของท่านพุทธทาส ไม่ว่าจะเป็นความรักในสิ่งที่ทำ ความละเอียดในการสังเกต ความกล้าที่จะแตกต่าง ความอดทนต่อความล้มเหลว หรือความเพียรที่ท้าทายขีดจำกัด ฯลฯ อย่างไรก็ต้องถือเป็นเรื่องที่บันดาลใจอย่างยิ่ง และอาจปรับใช้ได้กับทุกความพยายามของมนุษย์ ตั้งแต่การกวาดถนนให้สะอาด การปลุกปั้นสตาร์ทอัพ
...หรือแม้กระทั่งการแสวงหาความหลุดพ้น
คนกรุงเทพฯ โชคดีอย่างยิ่งที่ร่องรอยชีวิตอันยิ่งใหญ่ไม่ว่าจะพิจารณาจากทางโลกหรือทางธรรมของท่านพุทธทาส ได้ถูกเก็บบันทึกและนำออกแสดงไว้อย่างน่าอัศจรรย์โดยหอจดหมายเหตุพุทธทาสฯ และด้วยเหตุนี้ ในฐานะที่กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทรได้ร่วมเป็นภาคีสนับสนุนการดำเนินงานของหอจดหมายเหตุพุทธทาสฯ มาโดยตลอด จึงอยากใช้ Optimise ฉบับนี้ เป็นอีกหนึ่งสื่อชักชวนให้ทุกท่านร่วมเข้ามาศึกษาท่านพุทธทาสในฐานะที่เป็นมนุษย์อันน่าเรียนรู้อย่างยิ่ง ตลอดจนหาเวลาไปเยือนหอจดหมายเหตุพุทธทาสฯ ที่ครบรอบ 10 ปีการก่อตั้งในปีนี้ ในฐานะสถานที่ที่ต้องไปเยือนสักครั้งเพื่อประจักษ์กับความเป็นท่านพุทธทาสที่สมบูรณ์ที่สุด
เพราะต่อเมื่อเป็นเช่นนั้นจึงจะเรียกได้ว่า เราได้รับประโยชน์จากบุคคลที่องค์การยูเนสโกยกให้เป็น The World’s Great Personality หรือ ‘บุคคลสำคัญของโลก’ โดยแท้จริง