Welcome to Optimise

คาลวิน คูลิดจ์ เป็นประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาที่ขึ้นชื่อว่าพูดน้อยที่สุด จนมีชื่อเล่นว่า ‘คาลใบ้’ (Silent Cal)

ภรรยาของคูลิดจ์เล่าว่า ในงานเลี้ยงอาหารค่ำครั้งหนึ่ง เคยมีหญิงสาวมากระซิบบอกคูลิดจ์ว่าเธอท้าเพื่อนไว้ว่า ถ้าเธอทำให้คูลิดจ์พูดกับเธอมากกว่าสองคำได้ เธอจะชนะเงินพนัน ปรากฏว่าคูลิดจ์ตอบสาวผู้นั้นไปแต่เพียงว่า “คุณแพ้” (You lose)

ถึงจะพูดน้อยแต่คูลิดจ์ก็เป็นที่รักและเรียกได้ว่าเป็นผู้บริหารประเทศในช่วงที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงสุดคือยุคสองศูนย์คำราม (The Roaring Twenties) มีผู้วิเคราะห์ว่า ในห้วงเวลาขณะนั้น ที่รัฐบาลก่อนหน้าสร้างแต่เรื่องทุจริตอื้อฉาวและสังคมก็กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างเฉียบพลัน จุดแข็งของคูลิดจ์ไม่ได้อยู่ที่นโยบายแปลกใหม่ มากเท่ากับบุคลิกภาพและหลักการดำรงตนที่ชวนให้คนรู้สึกว่าพึ่งพาได้และวางใจได้

สิ่งเหล่านี้อาจพอรู้สึกได้จากหนึ่งในคำกล่าวของคูลิดจ์ที่คนจดจำว่า “ไม่มีอะไรในโลกดีไปกว่าความอดทน ความเก่งก็ไม่สู้ ไม่มีอะไรหาได้ดาษดื่นกว่าคนเก่งที่ไม่ประสบความสำเร็จ อัจฉริยภาพก็ไม่สู้ อัจฉริยะที่อับจนหนทางนั้นสามัญจนแทบจะเป็นสำนวน การศึกษาก็ไม่สู้ คนความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอดมีเต็มสังคมไปหมด มีแต่ความอดทนกับความมุ่งมั่นนั่นแหละที่ใช้ได้ตลอด สโลแกนว่า ‘ลุยไป (Press on)’ นั้นแก้ปัญหาให้มนุษยชาติมานักต่อนักและจะเป็นอย่างนี้ต่อไปเสมอ”

ไม่น่าเชื่อว่าแม้ห่างไกลโดยระยะทางและกาลเวลา คตินี้ของคูลิดจ์จะมาถูกตอกย้ำอีกครั้งโดยอีกหนึ่งบุคคลที่พูดน้อยไม่แพ้กันคือ ‘เสือยิ้มยาก’ หรือคุณประวัติ วะโฮรัมย์ นักวีลแชร์เรซซิง เจ้าของ 7 เหรียญทองจากพาราลิมปิกส์ ผู้ใช้คติสั้นๆ ของความอดทน เดินหน้าจากความเป็นผู้พิการสู่การเป็นแชมป์โลกหลายสมัย

ในบรรยากาศของโควิดที่ต่อเนื่องมาเป็นปีเต็มๆ ปีที่สอง นิตยสาร Optimise รู้สึกว่า The Triumph of the Will หรือ ‘ชัยชนะแห่งเจตจำนง’ ของคุณประวัติและอีกสารพัดกิจการไม่ว่าในเรื่องอาหาร ท่องเที่ยว สาธารณกุศล การแพทย์ หรือวงการบันเทิงที่ปรากฎในเล่มนี้น่าจะเป็นกำลังใจที่ดีให้แก่ทุกคนที่กำลังอดทนรุกหน้าอย่างไม่ท้อถอย

อย่างที่คูลิดจ์ว่าไว้…

การ ‘ลุยไป’ นั้นแก้ปัญหาให้มนุษยชาติมานักต่อนักและจะเป็นอย่างนี้ต่อไปเสมอ