SECTION
ABOUTSERVING YOU
Impact Investment
KKP GIMPACT-H กองทุนเปิดต่างประเทศเพื่ออนาคตโลกที่ยั่งยืนและสร้างผลตอบแทนระยะยาว
วิกฤตที่มนุษย์กำลังเผชิญรอบด้าน ทั้งการระบาดของโควิด-19 สภาวะโลกร้อน หรือปัญหาขยะพลาสติก เร่งรัดให้มนุษย์ต้องดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมมากกว่าเวลาใดในอดีต เห็นได้จากการที่บริษัทชั้นนำทั่วโลกตอบสนองต่อการตระหนักรู้นี้และหาทางดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบและลดผลกระทบในทางที่เป็นอันตรายต่อโลกและสังคม บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เกียรตินาคินภัทร จำกัด ได้ออกกองทุนเปิด KKP GIMPACT-H ซึ่งมุ่งลงทุนแบบ Impact Investing ในบริษัทที่ดำเนินธุรกิจอย่างมีจิตสำนึกต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม เพื่อให้นักลงทุนมั่นใจว่าทุกบาททุกสตางค์ที่ลงทุนจะช่วยส่งเสริมความยั่งยืนให้แก่โลกพร้อมๆ กับสร้างผลกำไรอย่างต่อเนื่องในระยะยาว
ลงทุนเพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวก
การลงทุนแบบ Impact Investing หรือการลงทุนเพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวก เริ่มเป็นที่รู้จักในโลกการลงทุนมาตั้งแต่ปี 2007 โดยธุรกิจที่ถือว่าสร้างผลกระทบเชิงบวกมีได้หลากหลาย ตั้งแต่ ธุรกิจรีไซเคิล พลังงานทางเลือก ไปจนถึงการศึกษาเพื่อผู้ด้อยโอกาส หรือการพัฒนาระบบคมนาคมให้พื้นที่ห่างไกล องค์กร Global Impact Investing Network (GIIN) ออกรายงานในช่วงกลางปี 2020 ว่าตลาดการลงทุนเพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวก (Impact Investing Market) มีมูลค่าสูงกว่า 7.1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ การลงทุนในกิจการที่มุ่งสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อมจึงนับเป็นโอกาสสำหรับนักลงทุน โดยเฉพาะเมื่อคิดถึงความท้าทายที่โลกต้องเผชิญ ทั้งโรคระบาด ภาวะโลกร้อน ความเหลื่อมล้ำ และความขัดแย้ง ความต้องการเทคโนโลยี หรือบริการใหม่ๆ ให้เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ช่วยเปิดทางให้กิจการเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมเติบโตในระยะยาว
KKP GIMPACT-H เป็นโอกาสของนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในหุ้นต่างประเทศเพื่อสร้างผลตอบแทนและกระจายสินทรัพย์การลงทุน โดยเฉพาะนักลงทุนที่ให้ความสำคัญกับประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม
บริหารด้วยประสบการณ์
เพื่อให้การลงทุนเข้าถึงกิจการที่มุ่งสร้างความเปลี่ยนแปลงต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมได้ตามที่ตั้งใจ KKP GIMPACT-H จึงเลือกลงทุนในกอง Wellington Global Impact Fund ซึ่งลงทุนในหุ้นของบริษัทที่มุ่งสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกทางสังคมและ/หรือสิ่งแวดล้อมเพียงกองเดียว โดยกองเวลลิงตัน โกลบอล อิมแพค ฟันด์ดำเนินการซื้อขายในตลาดหุ้นโลกมานาน 5 ปีแล้ว จึงนับว่าเป็นกองทุนที่มีประสบการณ์มากที่สุดกองหนึ่งในการลงทุนประเภทนี้ โดยนโยบายหลักของกองทุนคือการบริหารเชิงรุกด้วยการกระจายการลงทุนทั่วโลก และการทำผลตอบแทนให้สูงกว่าดัชนี MSCI All Country World Index โดยผลงานสองปีหลังสุดยังคงเป็นไปตามเป้าหมาย คือในปี 2019 กองทุนมีผลตอบแทน 27.8% เทียบกับ 26.6% ของดัชนี MSCI และในปี 2020 มีผลตอบแทน 31.2% เทียบกับ 16.3% ของดัชนี MSCI ทั้งนี้ กองทุน KKP GIMPACT-H มีนโยบายการลงทุนในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม และมีความเสี่ยงสุทธิ (net exposure) ที่เกี่ยวข้องกับตลาดต่างประเทศโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
คัดเลือกด้วยมาตรฐานที่เข้มข้น
จุดเด่นของกองทุนเวลลิงตัน โกลบอลอิมแพค ฟันด์ นอกเหนือจากนโยบายการลงทุนเชิงรุกเพื่อสร้างผลกำไรแล้ว ยังมีเรื่องมาตรฐานการคัดกรองหุ้นที่จะเข้าลงทุน เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นการลงทุนเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง ทางกองทุนได้กำหนดธีมการลงทุนไว้ 3 ด้านหลักเพื่อพิจารณาลงทุนในหุ้นแต่ละตัว ได้แก่ ปัจจัยพื้นฐานต่อการดำรงชีวิต การเสริมสร้างศักยภาพของมนุษย์ และสิ่งแวดล้อม และมีอีก 11 ธีมย่อย เช่น การลงทุนในน้ำสะอาด การเกษตร การศึกษา เป็นต้น นอกจากนี้ ยังกำหนดว่าบริษัทที่จะเข้าลงทุนต้องมีรายได้จากการสร้างผลกระทบเชิงบวกอย่างน้อย 50% ของรายได้รวม โดยอาศัยนักวิเคราะห์และสาขาของเวลลิงตันทั่วโลกในการวิเคราะห์ข้อมูล รวมถึงวัดผลการดำเนินงานและวัดผลกระทบของบริษัทต่างๆ อย่างเป็นรูปธรรม การลงทุนผ่าน KKP GIMPACT-H กองทุนนี้จึงนับเป็นโอกาสของนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในหุ้นต่างประเทศเพื่อสร้างผลตอบแทนและกระจายสินทรัพย์การลงทุน โดยเฉพาะนักลงทุนที่ให้ความสำคัญกับประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม และอยากให้เงินลงทุนเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างโลกให้ดีขึ้น
ผู้ลงทุนที่สนใจกองทุนตราสารหนี้ KKP GIMPACT-H สามารถขอหนังสือชี้ชวน และข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ธนาคารเกียรตินาคินภัทร ทุกสาขา หรือ KKP Contact Center โทร. 02 165 5555 และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เกียรตินาคินภัทร โทร. 02 305 9800 หรือ https://am.kkpfg.com หรือผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนที่ได้รับการแต่งตั้งตามหนังสือชี้ชวน ■
คำเตือน :
- การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
- ผลการดำเนินงานในอดีตมิใช่สิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต
- เนื่องจากกองทุนมีการลงทุนในต่างประเทศ กองทุนอาจมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงในเรื่องเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม รวมถึงความเสี่ยงที่เกิดจากกฎหมายที่เกี่ยวข้องของประเทศที่กองทุนไปลงทุนด้วย
- กองทุนจะทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ กองทุนจึงอาจมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนในส่วนที่ไม่ได้ทำการป้องกันความเสี่ยงไว้ ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนได้รับผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุน
- กองทุนอาจลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมซึ่งอยู่ภายใต้การบริหารจัดการของ บลจ.เกียรตินาคินภัทร ได้ตามอัตราส่วนที่กำหนด โดย บลจ.เกียรตินาคินภัทร จะจัดระบบงานที่ป้องกันธุรกรรมที่อาจก่อให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์อันอาจเกิดจากนโยบายการลงทุนที่เปิดให้มีการลงทุนในกองทุนรวมภายใต้การบริหารจัดการของบริษัทจัดการเดียวกัน
- โปรดศึกษาคำเตือนที่สำคัญอื่นได้ในหนังสือชี้ชวนข้อมูลกองทุนรวม