HOME ISSUE

SECTION

ABOUT

SERVING YOU


Autocallable

Autocallable Fixed Coupon Note ผลิตภัณฑ์หุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงจากบล.ภัทร เพื่อเพิ่มโอกาสของผลตอบแทนท่ามกลางความไม่แน่นอนของตลาดหุ้น

ตลอดช่วงระยะเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ นักลงทุนจึงมองหาผลิตภัณฑ์ทางการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงขึ้น แต่ในขณะเดียวกันปริมาณเงินทุนที่หลั่งไหลเข้ามาในตลาดอย่างท่วมท้นจนราคาสินทรัพย์ปรับตัวเพิ่มสูง ก็เป็นเหตุให้นักลงทุน ไม่กล้าลงทุนในสัดส่วนที่มากจนเกินไปในตลาดทุน ด้วยเหตุนี้ Structured Note ประเภท Yield Enhancement ซึ่งให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่เสี่ยงเท่าการลงทุนในหุ้น อย่างเช่นผลิตภัณฑ์ Autocallable Fixed Coupon Note ของบริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน) จึงเป็นการลงทุนอีกทางเลือกหนึ่งที่นักลงทุนเลือกใช้เพื่อกระจายความเสี่ยง

Autocallable คืออะไร

กล่าวโดยทั่วไป Autocallable Fixed Coupon Note เป็นหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงที่มีลักษณะการจ่ายผลตอบแทนและชำระคืนเงินต้นที่อ้างอิงกับราคาหุ้น 1-5 ตัว (โดยในกรณีที่อ้างอิงกับหุ้น 2 ตัวขึ้นไป ผลตอบแทนจะขึ้นอยู่กับหุ้นอ้างอิงที่มี performance ต่ำที่สุดในแต่ละวัน) นอกจากนี้นักลงทุนจะได้รับดอกเบี้ยตามรอบและมีโอกาสได้รับคืนเงินต้นก่อนวันครบกำหนดอีกด้วย ขึ้นอยู่กับราคาปิดของหุ้นอ้างอิงในวันที่กำหนดให้เป็นวันสำรวจราคา (observation date) โดยนักลงทุนสามารถกำหนดกลุ่มหุ้นที่ใช้อ้างอิง และระยะเวลาการลงทุน เพื่อออกแบบผลิตภัณฑ์ ให้มีลักษณะเหมาะสมและตอบสนองมุมมองการลงทุนของตนได้ ภายใต้คำแนะนำจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนของบล. ภัทร

แม้อายุตั้งต้นของ Autocallable จะอยู่ที่ 6 เดือน แต่โดยปกติอายุเฉลี่ยของผลิตภัณฑ์กลับอยู่ที่ราว 3 เดือนเท่านั้น ซึ่งทำให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนพร้อมเงินต้นคืนเร็วขึ้น

เงื่อนไขการลงทุน

ผลิตภัณฑ์ Autocallable นั้นสามารถกำหนดระยะเวลาการลงทุนได้ตั้งแต่ 6 เดือนถึง 2 ปี โดยมีการกำหนดระดับราคา Knock-in (เช่น กำหนดไว้ที่ประมาณ 70% ของราคาหุ้นอ้างอิงในวันแรก) และระดับราคา Knock-out (เช่น กำหนดไว้ที่ประมาณ 105% ของราคาหุ้นอ้างอิงในวันแรก) เพื่อใช้เป็นตัววัดผลตอบแทนของนักลงทุน โดยตลอดระยะเวลาการลงทุน จะมีการสำรวจราคาปิดหุ้นอ้างอิงกับราคา Knock-in และ Knock-out ตามวันที่กำหนด โดยทั่วไป สถานการณ์สามารถเกิดขึ้นได้ 3 รูปแบบ สถานการณ์แรก คือภาวะที่ราคาปิดของหุ้นอ้างอิงทุกตัวในกลุ่มไม่เคยแตะที่ราคา Knock-in หรือ Knock-out ตลอดระยะเวลาการลงทุน ในกรณีนี้ นักลงทุนจะได้ผลตอบแทนตามรอบและรับเงินต้นคืนในวันครบกำหนดอายุ สถานการณ์ที่สอง คือเกิดเหตุการณ์ Knock-out กล่าวคือราคาปิดของหุ้นอ้างอิงทุกตัวในกลุ่มสูงกว่าหรือเท่ากับราคา Knock-out ในวันสำรวจราคา Knock-out ซึ่งจะทำให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนและเงินต้นคืนก่อนวันครบกำหนดอายุ

สถานการณ์สุดท้าย คือเกิดเหตุการณ์ Knock-in กล่าวคือราคาปิดของหุ้นอ้างอิงตัวใดตัวหนึ่งในกลุ่มลงไปแตะที่ระดับต่ำกว่าราคา Knock-in ในวันสำรวจราคา Knock-in ในกรณีนี้ผลตอบแทนของนักลงทุนจะถูกตัดสินในวันกำหนดค่าหลักทรัพย์ หากราคาปิดของหุ้นอ้างอิงทุกตัวสูงกว่าหรือเท่ากับราคาใช้สิทธิในวันกำหนดค่าหลักทรัพย์ นักลงทุนก็จะยังคงได้รับเงินต้นคืนเต็มจำนวนพร้อมผลตอบแทนตามรอบ แต่หากราคาปิดของหุ้นอ้างอิงตัวใดตัวหนึ่งต่ำกว่าราคาใช้สิทธิในวันกำหนดค่าหลักทรัพย์ นักลงทุนจะได้รับมอบเป็นหุ้นอ้างอิงตัวที่มี performance ต่ำที่สุดแทน พร้อมผลตอบแทนตามรอบ

กลวิธีบริหารความเสี่ยง

จะเห็นได้ว่า การลงทุนในผลิตภัณฑ์ Autocallable มีความเสี่ยงขาลงคล้ายการลงทุนในหุ้น แต่ในขณะเดียวกัน เนื่องจากระดับราคา Knock-in มักถูกกำหนดไว้ค่อนข้างลึก โอกาสที่ราคาหุ้นอ้างอิงจะปรับตัวลดลงไปต่ำกว่าระดับราคา Knock-in ก็อาจจะเป็นไปได้ยาก ทำให้ความเสี่ยงของการได้รับผลตอบแทนเป็นหุ้นอ้างอิงอาจไม่ถือว่าสูงเกินไป นอกจากนี้ แม้อายุตั้งต้นของ Autocallable จะอยู่ที่ 6 เดือน แต่โดยปกติอายุเฉลี่ยของผลิตภัณฑ์กลับอยู่ที่ราว 3 เดือนเท่านั้น เนื่องจากสามารถเกิดเหตุการณ์ Knock-out ได้ก่อนครบกำหนดอายุ ซึ่งทำให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนพร้อมเงินต้นคืนเร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม นักลงทุนพึงตระหนักถึงความเสี่ยงที่จะได้รับผลตอบแทนการลงทุนเป็นหุ้นอ้างอิง ซึ่งเมื่อตีมูลค่าที่ราคาตลาดขณะนั้นอาจต่ำกว่ามูลค่าเงินลงทุนเริ่มต้น อีกทั้งผลิตภัณฑ์ Autocallable ยังไม่สามารถเปลี่ยนมือหรือโอนต่อในตลาดรองได้ จึงเหมาะสมกับนักลงทุนที่มีสภาพคล่องค่อนข้างสูง

ปรับพอร์ตให้สมดุล

สุดท้ายนี้ Structured Note ถือเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ช่วยนำมาใช้กระจายความเสี่ยงตามหลักการการจัดสรรการลงทุนหรือ ‘asset allocation’ นอกเหนือไปจากตราสารทุน เงินสด หรือการลงทุนทางเลือกอื่นๆ อาทิ ทองคำ อสังหาริมทรัพย์ นอกจากนี้ Structured Note ยังช่วยไม่ให้นักลงทุนแบกรับความเสี่ยงเกินตัว และในขณะเดียวกันก็เพิ่มทางเลือกมากกว่าการเก็บเงินสดไว้ในพอร์ต ซึ่งอาจทำให้เสียโอกาสทำกำไรได้ แต่ทั้งนี้ ย่อมขึ้นอยู่กับมุมมองการลงทุนและความเสี่ยงที่รับได้ในแต่ละบุคคลเสมอ

ผู้ลงทุนที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามและขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน) โทร. 02-305-9449

คำเตือน

บทความนี้เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นทั่วไปเกี่ยวกับหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝง Autocallble ไม่ถือเป็นการให้คำแนะนำหรือให้คำปรึกษาใดๆ ไม่ว่าเรื่องการลงทุน ข้อกฎหมายหรือภาษี บริษัทไม่รับรองความถูกต้องครบถ้วนของข้อมูลที่ปรากฏและอาจมีการเปลี่ยนแปลง ปรับปรุง หรือแก้ไขข้อมูลโดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า กรุณาติดต่อผู้แนะนำการลงทุนของท่านเพื่อรับข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน การลงทุนในหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงมีความแตกต่างจากการลงทุนในผลิตภัณฑ์อื่นเนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความเสี่ยงสูงและซับซ้อน ถึงแม้ว่าผู้ลงทุนจะมีประสบการณ์ในการลงทุนอยู่แล้วอย่างไรก็ตามควรศึกษาทำความเข้าใจถึงความเสี่ยง เงื่อนไข ผลตอบแทนของผลิตภัณฑ์รวมถึงควรพิจารณาอย่างระมัดระวังก่อนตัดสินใจลงทุนและควรตัดสินใจลงทุนด้วยตัวเองทุกครั้ง