HOME ISSUE

SECTION

ABOUT

SERVING YOU


Coming in Handy

Securities Borrowing and Lending ธุรกรรมที่ไม่เพียงเพิ่มโอกาสทำกำไรแก่ผู้ยืมและผู้ให้ยืมหลักทรัพย์ แต่ยังสำคัญต่อการเสริมสภาพคล่องให้ตลาดทุน


หนึ่งในบริการที่ประสบความสำเร็จของ บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) คือ ‘Securities Borrowing and Lending’ (SBL) หรือธุรกรรมการยืมและให้ยืมหลักทรัพย์ โดย SBL เป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนทั้งผู้ยืมและผู้ให้ยืมหลักทรัพย์

‘ผู้ยืม’ มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อนำหลักทรัพย์ไปขายชอร์ต (short sell) เพื่อทำกำไรจากส่วนต่างของราคา เพิ่มความหลากหลายของกลยุทธ์การลงทุน หรือใช้ในการบริหารความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน แต่บางส่วนก็อาจจะยืมไปใช้เพื่อการส่งมอบหลักทรัพย์อันเกิดจากการผิดนัดชำระ ซึ่ง ‘ผู้ให้ยืม’ จะได้รับผลตอบแทนเป็นค่าธรรมเนียมการให้ยืมหลักทรัพย์

กระนั้นธุรกรรมดังกล่าวไม่ได้มีประโยชน์ต่อผู้ยืมและผู้ให้ยืมเท่านั้น แต่มีความสำคัญต่อตลาดทุนอย่างลึกซึ้ง ‘การให้ยืมหลักทรัพย์’ เป็นกลไกในการหมุนเวียนและเสริมสภาพคล่องแก่หลักทรัพย์นั้นๆ เพื่อให้ตลาดการซื้อขายกลับมาคึกคักโดยไม่ต้องรอให้เกิดการขายจากเจ้าของหลักทรัพย์เดิมเพียงอย่างเดียว บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ในประเทศหลายๆ แห่งจึงมักนำหลักทรัพย์ที่ไม่มีการเคลื่อนไหวออกมาให้ยืมเพื่อกระตุ้นให้เกิดสภาพคล่องอีกครั้งและลดภาระทุนทางธุรกรรม ในกรณีที่ต้องการขายหลักทรัพย์นั้นในอนาคต เหนืออื่นใด SBL ช่วยเพิ่มความหลากหลายของนักลงทุนและกลยุทธ์ทางการลงทุน เป็นการส่งเสริมประสิทธิภาพของราคาหลักทรัพย์ให้เข้าสู่มูลค่าที่แท้จริงผ่านการให้ผู้ที่ไม่เคยมีหุ้นหรือหลักทรัพย์เป็นของตัวเองสามารถยืมเพื่อนำไปขายชอร์ตได้เช่นเดียวกับผู้ที่มีหุ้นหรือหลักทรัพย์อยู่แล้ว

ประโยชน์ของการให้ยืมหลักทรัพย์

โดยทั่วไปผู้ลงทุนจะได้ผลประโยชน์จากหลักทรัพย์ 2 ข้อหลักๆ คือ หนึ่ง ราคาที่เพิ่มขึ้นของหลักทรัพย์นั้น และสอง เงินปันผลหรือสิทธิประโยชน์อื่นๆ ที่ได้รับจากการถือครองหลักทรัพย์ดังกล่าว แต่หากปล่อยหลักทรัพย์นั้นออกมาให้ยืม ก็จะได้รับผลตอบแทนเพิ่มเติมเป็นค่าธรรมเนียมการให้ยืมหลักทรัพย์ ด้วยเหตุนี้ การให้ยืมหลักทรัพย์จึงเป็นธุรกรรมที่ได้ผลประโยชน์โดยมีความเสี่ยงที่ค่อนข้างต่ำและไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อการลงทุน เนื่องจากผู้ให้ยืมมีสิทธิเรียกหลักทรัพย์คืนหรือขายหลักทรัพย์ที่ให้ยืมได้ตลอดเวลา โดยสามารถแจ้งทีมผู้ให้บริการ SBL ดำเนินการได้ทันทีตามความต้องการ ส่วนเจ้าของหลักทรัพย์บางคนที่กังวลว่าการให้ยืมหลักทรัพย์เพื่อให้ผู้ยืมนำไปขายชอร์ตจะส่งผลให้ราคาของหลักทรัพย์นั้นลดลง จากงานวิจัยจากนักวิชาการต่างประเทศหลายแห่งยืนยันแล้วว่าการขายชอร์ตไม่มีผลกระทบต่อการลดลงของราคาหลักทรัพย์ในระยะยาว

ธุรกรรมการยืมและให้ยืมหลักทรัพย์ (SBL) ไม่ได้มีประโยชน์ต่อผู้ยืมและผู้ให้ยืมเท่านั้น แต่สำคัญต่อตลาดทุนอย่างลึกซึ้งในการใช้ ‘การยืมหลักทรัพย์’ ในการเสริมสภาพคล่องแก่หลักทรัพย์นั้นๆ เพื่อให้ตลาดการซื้อขายกลับมาคึกคักโดยไม่ต้องรอให้เกิดการขายจากเจ้าของหลักทรัพย์เดิมเพียงอย่างเดียว

หน้าที่และความเสี่ยงของผู้ยืมหลักทรัพย์

หน้าที่ของผู้ยืมหลักทรัพย์คือการจ่าย ‘เงินชดเชย’ เงินปันผล ดอกเบี้ย หรือสิทธิประโยชน์อื่นๆ ที่เจ้าของหลักทรัพย์ผู้ให้ยืมจะต้องได้รับในระหว่างระยะเวลาการยืม เพื่อให้ผู้ให้ยืมหลักทรัพย์ยังคงได้รับสิทธิประโยชน์เหมือนเดิมก่อนที่จะให้ยืมหุ้น

อีกหนึ่งหน้าที่คือการวาง ‘หลักประกัน’ โดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) จะเป็นผู้กำหนดอัตราขั้นต่ำของหลักประกัน เช่น หากเป็นบุคคลธรรมดา หลักประกันจะต้องไม่ต่ำกว่า 150% ของมูลค่าหลักทรัพย์ที่ยืมไป และในระหว่างการยืมนั้นจะต้องคงสถานะของหลักประกันไว้ในอัตรานี้อยู่ตลอด ดังนั้น ในขณะที่ผู้ยืมหลักทรัพย์มักจะนำหลักทรัพย์ที่ยืมไปขายชอร์ตโดยหวังว่าราคาจะตก แต่ในกรณีที่หลักทรัพย์ราคาขึ้น นอกจากจะสวนทางกับความคาดหวังแล้ว ผู้ยืมยังต้องวางหลักประกันเพิ่มเพื่อให้สถานะของหลักประกันอยู่ในสัดส่วน 150% ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด

นอกจากนี้เนื่องจากผู้ให้ยืมมีสิทธิเรียกหลักทรัพย์ที่ให้ยืมคืนได้ตลอดเวลา ผู้ยืมจึงมีความเสี่ยงที่จะโดนเรียกหลักทรัพย์คืนในช่วงเวลาที่อาจส่งผลเสียให้แก่ผู้ยืมเอง เช่น ผู้ยืมยืมหลักทรัพย์ไปเพื่อคาดหวังว่าราคาจะตกลงเรื่อยๆ ในช่วงระยะเวลา 6 เดือน แต่ปรากฏว่าผ่านไปเพียง 3 สัปดาห์ ราคากลับพุ่งขึ้นไป 5-10% และในระหว่างนั้นเองผู้ให้ยืมก็เรียกหลักทรัพย์คืน ผู้ที่กำลังจะยืมหลักทรัพย์ผ่านธุรกรรม SBL จึงต้องเข้าใจถึงความเสี่ยงเหล่านี้ประกอบการตัดสินใจลงทุน

จุดเด่นบริการ

ธุรกรรม SBL ของบล.เกียรตินาคินภัทร โดดเด่นด้านความหลากหลายของผู้ให้ยืมและผู้ยืม รายชื่อหลักทรัพย์ที่สามารถให้ยืมได้นั้นผ่านการคัดกรองแล้วว่ามีสภาพคล่อง สามารถนำไปขายชอร์ตได้ และครอบคลุมเกือบ 300 หลักทรัพย์ โดยมาจากทั้งกลุ่มลูกค้า Wealth Management ของบล.เกียรตินาคินภัทรเอง และลูกค้าสถาบันการเงินต่างๆ ในประเทศ ด้านผู้ยืมหลักทรัพย์นั้นก็มีตั้งแต่นักลงทุนสถาบัน บริษัทหลักทรัพย์ต่างๆ ในประเทศ ไปจนถึงนักลงทุนต่างประเทศที่ทำกลยุทธ์ด้านการดูแลสภาพคล่องในตลาดหรือการให้บริการสภาพคล่องทางการเงิน

ตลอด 17 ปีของการให้บริการธุรกรรม SBL บล.เกียรตินาคินภัทร พัฒนาระบบงานต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งการบริหารจัดการความเสี่ยงที่รัดกุม และประสิทธิภาพในการอำนวยความสะดวกเพื่อประสบการณ์ที่ดีที่สุดของผู้ใช้งาน จึงมั่นใจได้ว่าจะได้รับความพึงพอใจในการใช้บริการ หากต้องการคำปรึกษาทั้งในด้านข้อมูลของการทำธุรกรรม รวมไปถึงข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ลูกค้าที่สนใจสามารถขอรับคำปรึกษาได้ที่ฝ่ายที่ปรึกษาการลงทุนส่วนบุคคลของบล.เกียรตินาคินภัทร โทร.02 305 9559