HOME ISSUE

SECTION

ABOUT

SERVING YOU


Defining Achievement

ความสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจของกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทรกับ 4 รางวัลระดับภูมิภาคเอเชียที่การันตีด้วยคุณภาพบริการระดับสากล ที่เข้าถึงความเป็นไทย


ความสำเร็จในโลกธุรกิจมักชวนให้นึกถึงตัวเลขกำไรมากกว่าสิ่งอื่น แต่สำหรับคนทำงานแล้ว สิ่งสำคัญไม่แพ้กันคือ ‘กำลังใจ’ ในการทำงานซึ่งอาจมาในรูปแบบที่ไม่เป็นทางการผ่านคำชมของลูกค้า เรื่อยไปจนรางวัลเป็นรูปธรรมจากผู้ชำนาญการของอุตสาหกรรม เช่น นิตยสารการเงินชั้นนำ

ด้วยเหตุนี้ สำหรับปี 2022 นอกจากจะเป็นวาระครบรอบ 50 ปีของกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทรแล้ว ตั้งแต่ต้นปีกลุ่มธุรกิจฯ ยังมีเรื่องให้ยินดีอย่างต่อเนื่อง จากการที่นิตยสารชั้นนำระดับเอเชียพร้อมใจกันมอบรางวัลแห่งคุณภาพให้แก่บล.เกียรตินาคินภัทร ถึง 4 รางวัล ได้แก่

  • Best Domestic Private Bank จาก Asian Private Banker
  • Best IPO in Thailand จาก The Asset Triple A Country Award 2021
  • Best Local Currency Bond in Thailand จาก The Asset Triple A Country Award 2021
  • Best Equity/IPO Deal of the Year in Southeast Asia จาก Alpha Southeast Asia Annual Best Deal & Solution Award 2021

เนื่องจากรางวัลเหล่านี้มอบให้ต่อการทำงานตลอดปี 2021 ซึ่งเป็นช่วงที่โรคโควิด-19 ยังแผลงฤทธิ์ และทำภาคธุรกิจปั่นป่วน การที่บล.เกียรตินาคินภัทร ยังคงทำหน้าที่ให้บริการได้อย่างไม่เสียขบวนจนได้รับการยอมรับโดยสถาบันชั้นนำคือผลตอบแทนการทำงานหนักของผู้เกี่ยวข้องอย่างแท้จริง

รางวัลแห่งการบริหารความมั่งคั่ง

การบริหารความมั่งคั่ง (wealth management) เป็นพันธกิจสำคัญของธุรกิจไพรเวทแบงก์ซึ่งรับผิดชอบการให้คำแนะนำ ดูแล และช่วยเหลือลูกค้าในการทำธุรกรรมการลงทุนให้ประสบความสำเร็จแม้ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก มีปัจจัยและตัวแปรหลากหลายรูปแบบซึ่งอาจเปลี่ยนไปได้ตลอดทั้งปี ไพรเวทแบงเกอร์ที่ดีจึงต้องตามติดสถานการณ์ทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างใกล้ชิด และผลจากการทำหน้าที่นี้ได้อย่างครบถ้วนได้ส่งให้บล.เกียรตินาคินภัทร ได้รับรางวัล Best Domestic Private Bank จาก Asian Private Banker ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นนิตยสารการเงินระดับแนวหน้าของเอเชีย และมีกระบวนการคัดเลือกผู้ชนะรางวัลที่เข้มข้นเชื่อถือได้

“เขาพิจารณาผลประกอบการในปีที่ผ่านมา ว่าเราเติบโตในมิติต่างๆ อย่างไร มีพัฒนาการสำคัญที่เกี่ยวเนื่องกับการให้บริการลูกค้าด้านไหนบ้าง โดยมีคณะกรรมการซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมมาสัมภาษณ์ผู้บริหารที่เกี่ยวข้อง เป็นกระบวนการคัดสรรที่ทำอย่างจริงจังและเข้มข้นมาก พอผลออกมาว่าได้รับรางวัล เราจึงภูมิใจมาก” ณฤทธิ์ โกสาลาทิพย์ กรรมการผู้จัดการ ประธานสายงานที่ปรึกษาและบริหารการลงทุนลูกค้า เล่าถึงรายละเอียดเบื้องหลังรางวัล

จุดแข็งคือเราให้บริการลูกค้าที่ลงทุนในประเทศสามารถหยิบเงินไปลง offshore หรือลงทุนต่างประเทศด้วยการเปิดบัญชีการลงทุนกับเราเพียงที่เดียว ไม่ต้องแยกกระเป๋า เราเรียกสิ่งนี้ว่าเป็น seamless หรือการบริการการลงทุนแบบ ‘ไร้รอยต่อ’

สำหรับการทำธุรกิจไพรเวทแบงก์ในยุคที่โอกาสลงทุนกระจายอยู่ทั่วโลก ณฤทธิ์กล่าวว่าในอดีตเราอาจจะเสียเปรียบธนาคารต่างชาติที่สามารถเชื่อมต่อโอกาสลงทุนในตลาดต่างประเทศได้ดีกว่า แต่ในปัจจุบันที่เราได้พัฒนาศักยภาพการให้บริการได้เทียบเคียงระดับสากล ลูกค้าก็สะดวกใจที่จะเลือกใช้บริการกับเรา ด้วยการสื่อสาร ความใกล้ชิดและความเข้าใจถึงความต้องการของลูกค้าที่เป็นธรรมชาติมากกว่า

“จุดแข็งของเราคือเราให้บริการลูกค้าที่ลงทุนในประเทศสามารถหยิบเงินไปลง offshore หรือลงทุนต่างประเทศด้วยการเปิดบัญชีการลงทุนกับเราเพียงที่เดียว ในกระเป๋าเขาสามารถแบ่งเงินออกเป็นก้อน ก้อนหนึ่งไปลงต่างประเทศ อีกก้อนก็ลงในประเทศไม่ต้องแยกกระเป๋าเหมือนเวลาไปเปิดบัญชีกับธนาคารในต่างประเทศเพื่อลงทุน เราเรียกสิ่งนี้ว่าเป็น seamless หรือการบริการการลงทุนแบบ ‘ไร้รอยต่อ’” ณฤทธิ์ อธิบาย

การระดมทุน IPO คุณภาพเพื่อตลาดทุนไทย

ในช่วง 6-7 ปีที่ผ่านมา นักลงทุนสถาบันต่างประเทศมีการขายหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากผลตอบแทนจากการลงทุน และความน่าสนใจของหุ้นในตลาดหุ้นไทยมีน้อยกว่าเมื่อเทียบกับการลงทุนตลาดอื่นๆ แต่ในปี 2021 ที่ผ่านมา บล.เกียรตินาคินภัทรได้เป็นแกนหลักสำคัญในการระดมทุนหุ้น IPO ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง และสามารถเรียกความสนใจของนักลงทุนสถาบันต่างประเทศที่เคยถูกมองว่ากำลังหันหลังให้กับประเทศไทยกลับมาอีกครั้ง ได้แก่ หุ้น ‘OR’ หรือบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) มูลค่าเสนอขายรวม 54,000 ล้านบาท สูงที่สุดเป็นลำดับที่สองของประวัติศาสตร์หุ้นไอพีโอในตลาดทุนไทย กับหุ้น ‘TIDLOR’ หรือบริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีมูลค่าเสนอขายรวม 38,000 ล้านบาท นับเป็นหุ้นไอพีโอที่มีมูลค่าสูงที่สุดจากหุ้นในหมวดธุรกิจเงินทุนและหลักทรัพย์ของไทย

ความสำเร็จในการระดมทุนไอพีโอทั้งสองตัว ทำให้บล.เกียรตินาคินภัทรคว้ารางวัลที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมไอพีโอถึง 2 รางวัล ได้แก่ รางวัล Best IPO in Thailand ในการทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการจัดจำหน่ายและรับประกันให้แก่ OR และรางวัล Best Equity/IPO Deal of the Year in Southeast Asia ในการระดมทุนหุ้น TIDLOR

“คิดว่าความท้าทายที่สุดในการระดมทุนหุ้น OR คือเราจะดึงนักลงทุนโดยเฉพาะต่างชาติให้กลับมาลงทุนในหุ้นไทยได้อย่างไร เราจึงต้องคิดถึงสาระสำคัญของ OR ในฐานะเรือธงด้านธุรกิจค้าปลีกของกลุ่มปตท.จะเห็นว่าสถานีบริการน้ำมันของกลุ่มปตท.มีเครือข่ายบริการ มากที่สุดในประเทศ และได้รับความนิยมมากที่สุด สิ่งนี้มาพร้อมกับธุรกิจอื่นๆ เช่น คาเฟ่อเมซอน ซึ่งไม่ได้มีสาขาแค่ในไทย แต่ยังขยายไปในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จนมีจำนวนสาขาติดอันดับหนึ่งในห้าของโลกแล้ว การลงทุนใน OR จึงมีทั้งความน่าสนใจในโมเดลธุรกิจ และโอกาสที่กำลังเติบโตในระดับภูมิภาค” นายอนุวัฒน์ ร่วมสุข กรรมการผู้จัดการ ประธานสายวานิชธนกิจและตลาดทุน กล่าวถึงคุณลักษณะพิเศษของหุ้น OR

เราอยากจะเป็น The best global private bank for Thais คือถ้าเป็นบริการให้คนไทย หรือในประเทศไทยเราต้องบริการได้ดีที่สุด เพราะเราต้องรู้จักคนไทยดีกว่าธนาคารต่างประเทศเป็นจุดยืนที่เราวางไว้เลยว่าเราต้องทำให้เป็นจริงเสมอ

ขณะที่เรื่องราวการทำหน้าที่ที่ปรึกษาทางการเงินในการระดมทุนหุ้นของเงินติดล้อนั้นมีรสชาติที่แตกต่างออกไป เพราะต้องมาควบคู่กับการแก้ไขวิกฤตเฉพาะหน้าในการระดมทุนเนื่องจากการซื้อขายและเปิดตัวในตลาดหุ้นของ TIDLOR เกิดขึ้นในช่วงที่ทุกอย่างถูกล็อกดาวน์สมบูรณ์จากวิกฤตโควิด-19 ขณะที่ผู้คนกำลังให้ความสนใจอยากจองหุ้นตัวนี้อย่างล้นหลาม

“เราตัดสินใจให้คนจองหุ้นของเงินติดล้อแบบออนไลน์ 100% ซึ่งต้องบอกว่าเป็นครั้งแรกของประเทศไทย แปลว่าระบบของธนาคารต้องพร้อม ธนาคารที่เราทำงานด้วยเพื่อช่วยจัดจำหน่ายก็ต้องพัฒนาระบบให้พร้อมภายในเวลาไม่กี่เดือน แล้วเราก็ต้องให้ความรู้เกี่ยวกับขั้นตอนการจองหุ้นออนไลน์ซึ่งไม่ได้รวบรัดง่ายดายเลย แต่ผลของการทำงานก็ออกมาน่าพอใจมาก เพราะมีนักลงทุนรายย่อยถึงกว่า 300,000 คนจองซื้อหุ้นของเงินติดล้อจากทั่วประเทศผ่านระบบออนไลน์” อนุวัฒน์ กล่าว

ที่ควรภูมิใจยิ่งกว่าคือ โมเดลธุรกิจของเงินติดล้อแม้จะอยู่ในกลุ่มธุรกิจการเงินและหลักทรัพย์จากการปล่อยสินเชื่อ แต่สินเชื่อของเงินติดล้อกลับมุ่งไปที่กลุ่มคนที่ไม่สามารถเข้าถึงเงินกู้จากสถาบันการเงินอย่างธนาคาร เช่น ผู้มีรายได้น้อย หรืออาชีพรับจ้างรายวันการที่ลูกค้ากลุ่มนี้สามารถนำพาหนะทั้งจักรยานยนต์ หรือรถยนต์ส่วนบุคคลมายื่นขอสินเชื่อกับเงินติดล้อ ช่วยให้พวกเขาเข้าถึงเงินทุนในการการทำธุรกิจส่วนตัวหรือเลี้ยงดูครอบครัว การระดมทุนในหุ้น TIDLOR จึงไม่ได้สร้างประโยชน์ให้แก่นักลงทุนและตลาดทุนเท่านั้น แต่ยังเปิดโอกาสที่มากขึ้นให้แก่ระบบเศรษฐกิจไทยอีกด้วย นับว่าคู่ควรกับรางวัล IPO ยอดเยี่ยมแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

หุ้นกู้ที่แข็งแกร่ง

อีกหนึ่งรางวัลที่บล.เกียรตินาคินภัทรคว้ามาได้ก็คือรางวัล Best Local Currency Bond ที่ได้จากการเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย หุ้นกู้ประเภทไม่ด้อยสิทธิและไม่มีหลักประกันของบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL โดยมีมูลค่าเสนอขายรวมถึง 66,000 ล้านบาท

หากพิจารณาในเชิงเทคนิค การปล่อยหุ้นกู้แตกต่างจากการออกหุ้นทุน เช่น หุ้น IPO ที่เมื่อบริษัทออกหุ้นมาแล้วจะกลายเป็นเงินทุนของบริษัทเพื่อนำไปลงทุนในกิจการต่อ เพราะการออกหุ้นกู้นั้น บริษัทจะมีนักลงทุนเป็นเจ้าหนี้ และบริษัทมีหน้าที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยและคืนเงินต้นให้แก่ผู้ถือหุ้นกู้ของบริษัทด้วยเหตุนี้ สิ่งสำคัญของการลงทุนในหุ้นกู้ก็คือการพิจารณาเครดิตของบริษัทที่ปล่อยหุ้นกู้ซึ่งทำให้ไม่แปลกใจว่าในกรณีของ CPALL นั้น ความแข็งแกร่งทางการเงินและกิจการทำให้นักลงทุนไม่ลังเลจะคว้าโอกาสเป็นเจ้าของหุ้นกู้ของบริษัท

“การที่เราได้รางวัลจากการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ของ CPALL ขนาดของบริษัทเป็นส่วนที่มีความสำคัญเป็นเรื่องแรก เรื่องที่สองคือสถานการณ์ของตลาด เรื่องที่สามคือสถานะของ CPALL ที่ก่อนหน้านี้ได้ทำการกู้เงินเพื่อซื้อกิจการเพิ่มเติม เมื่อกู้มาแล้วเขาก็ทำการรีไฟแนนซ์ด้วยการออกหุ้นกู้หรือ bond ซึ่งทาง CPALL ได้ออกหุ้นกู้ติดต่อกันมาตั้งแต่ปี 2013 แปลว่าเขามีเครดิตดี สถานะการเงินแข็งแกร่ง คนจึงสามารถซื้อหุ้นกู้นี้โดยไม่กังวลเรื่องความสามารถในการชำระดอกเบี้ยและคืนเงินต้น” อนุวัฒน์กล่าว

เราอาจเรียกตัวเองว่าที่ปรึกษาทางการเงินแต่ mindset ในการทำงานของเรา และสิ่งที่ปลูกฝังให้กับน้องๆ เสมอคือ เราไม่ใช่แค่ที่ปรึกษา แต่เราเป็นพาร์ทเนอร์ของลูกค้า เราต้องเป็นเพื่อนคู่คิด คอยดูแลลูกค้าให้คำแนะนำที่ดีที่สุดในด้านต่างๆ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อลูกค้า ทั้งในเชิงธุรกิจ การเงิน หรือการบริหารการลงทุน

บริการระดับสากลที่เข้าถึงความเป็นไทย

หากจะให้กล่าวถึงเหตุผลร่วมที่ทำให้บล.เกียรตินาคินภัทร คว้ารางวัลดังกล่าวมาได้ถึง 4 รางวัล สิ่งสำคัญที่สุดก็คงเป็นการบริการที่สะท้อนผ่านหนึ่งในหลักการทำงานของกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร ที่ว่า ‘บริการสากล บนแก่นสารวิญญาณไทย’

คำกล่าวนี้หมายถึงการเป็นผู้ให้บริการด้านการลงทุนและบริหารความมั่งคั่งแก่คนไทยที่ดีที่สุดอย่างที่ณฤทธิ์ขยายความว่า

“เราอยากจะเป็น The best global private bank for Thais คือถ้าให้เทียบกับธนาคารระดับโลก ตัวต่อตัว เราเทียบไม่ได้ แต่ถ้าเป็นบริการให้คนไทย หรือในประเทศไทย เราต้องบริการได้ดีที่สุด เพราะเราต้องรู้จักคนไทยดีกว่าธนาคารต่างประเทศ เป็นจุดยืนที่เราวางไว้เลยว่าเราต้องทำให้เป็นจริงเสมอ”

เป้าหมายดังกล่าวดูจะไม่ได้เป็นการกล่าวเกินเลย หากพิจารณาในภาพรวม มีจุดแข็งหลายประการที่ทำให้บล.เกียรตินาคินภัทรสามารถรักษาที่มั่นในประเทศได้อย่างเหนียวแน่น ตั้งแต่ประสบการณ์ในการทำงานด้านวาณิชธนกิจที่มีมานานกว่า 40 ปี ช่วยให้องค์กรสามารถดูแลและแนะนำลูกค้าได้อย่างเหมาะสม เครือข่ายลูกค้าที่ครอบคลุมทั้งสถาบันในประเทศ สถาบันต่างประเทศ และลูกค้าบุคคลทั่วไป จนมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารความมั่งคั่งหรือ wealth management ใหญ่ที่สุดในประเทศ ฝ่ายวิจัยหรือ KKP Research ที่ออกบทวิเคราะห์ตลาดชั้นเยี่ยม จนได้รับการยอมรับให้เป็นพาร์ทเนอร์กับ Bank of America ซึ่งนำบทวิเคราะห์ของเกียรตินาคินภัทรไปตีพิมพ์ในต่างประเทศ และประการสำคัญที่สุดคือทัศนคติในการให้บริการ ที่สามารถทำให้ลูกค้าเกิดความไว้เนื้อเชื่อใจอย่างไม่คลอนแคลน

“ในแง่ของการทำงาน เราอาจเรียกตัวเองว่าที่ปรึกษาทางการเงิน แต่ mindset ในการทำงานของเรา และสิ่งที่ผมจะปลูกฝังให้กับน้องๆ เสมอคือ เราไม่ใช่แค่ที่ปรึกษา แต่เราเป็นพาร์ทเนอร์ของลูกค้า ไม่ใช่ว่าทำไอพีโอแล้วก็จบ เราต้องเป็นเพื่อนคู่คิด คอยดูแลลูกค้าไปตลอดทาง ให้คำแนะนำที่ดีที่สุดในด้านต่างๆ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อลูกค้าทั้งในเชิงธุรกิจ เชิงการเงิน หรือเชิงการบริหารการลงทุน พวกเราเชื่อว่าการให้บริการที่ดีที่สุดแบบนี้เป็นสิ่งสำคัญ คือไม่ได้คิดว่าทำอย่างไรลูกค้าถึงจะเข้ามาใช้บริการต่อเนื่อง หรือทำอย่างไรให้คนให้รางวัลเรา แต่หลักการตลอดมาคือดูแลลูกค้าเสมือนเป็นพาร์ทเนอร์ของเรา” อนุวัฒน์กล่าวทิ้งท้าย

ฟังจากคำตอบของอนุวัฒน์และณฤทธิ์แล้ว รางวัลดูจะห่างไกลจากการเป็นสัญลักษณ์ของการหยุดพักหรือของตอบแทนที่ปลายทาง ตรงกันข้าม รางวัลคือแรงผลักดันให้ทุกคนก้าวเดินต่อไปเพื่อพัฒนาคุณภาพให้อยู่ในใจของลูกค้านักลงทุนทุกคนมากยิ่งกว่าเดิมต่อไป