SECTION
ABOUTCLIENT VALUES
The Compassion Business
ปรัชญาการดำเนินธุรกิจของดร.ฮาราลด์ ลิงค์ ผู้นำแห่งอาณาจักรบี.กริม ที่ยึดมั่นความโอบอ้อมอารีเป็นหัวใจสำคัญ เพื่อสร้างคุณค่าให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง
30 พฤศจิกายน 2566
แม้ว่าชื่อและรูปลักษณ์ภายนอกจะดูเป็นชาวต่างชาติเต็มตัว แต่ผู้บริหารคนปัจจุบันของบริษัทที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทยอย่างดร.ฮาราลด์ ลิงค์ แห่งอาณาจักรบี.กริมนั้นเรียกได้ว่าเป็น ‘ฝรั่งหัวใจไทย’ อย่างแท้จริง ทั้งด้วยความสามารถในการพูดภาษาไทยได้อย่างชัดเจนตามหลักไวยากรณ์ และมีความภาคภูมิใจในความเป็นไทยไม่น้อยไปกว่าเยอรมนีอันเป็นบ้านเกิด (สังเกตได้ผ่านชุดผ้าไหมที่เขาใส่มาในวันสัมภาษณ์) ตลอดจนการเป็นผู้สืบต่อเจตนารมย์การดำเนินธุรกิจด้วยความโอบอ้อมอารีที่ครอบครัวของเขาได้ยึดไว้เป็นปรัชญาตั้งแต่แรกเริ่มกิจการในประเทศไทยเมื่อกว่า 145 ปีมาแล้ว
นับตั้งแต่รุ่น มร.อดอล์ฟ ลิงค์ ผู้เป็นปู่, มร.เฮอร์เบิร์ต ลิงค์ ผู้เป็นลุง, และดร.เกฮาร์ด ลิงค์ ผู้เป็นพ่อของดร.ฮาราลด์ อาณาจักรบี.กริมได้ผ่านฝีมือการบริหารและวิสัยทัศน์ที่มองการไกลมาอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญ ความเติบโตจากหนึ่งบริษัทสู่อาณาจักรธุรกิจของบี.กริมนั้น ไม่ได้มีการเติบโตแค่เพียงด้านผลกำไร ดังที่ดร.ฮาราลด์สรุปว่าบี.กริมนั้นเติบโตอย่างแข็งแกร่งจวบจนปัจจุบันด้วยความพยายามสร้างประโยชน์ให้กับสังคมไทย ภายใต้เหตุผลเรียบง่ายว่านี่คือแผ่นดินที่มีบุญคุณต่อครอบครัว
การมุ่งเน้นไปพลังงานสะอาดเต็มตัวจึงจะเป็นผลดีกับทุกฝ่าย รวมไปถึงสิ่งแวดล้อมของเรา ซึ่งบี.กริมก็ตั้งใจก้าวสู่องค์กรที่ไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Net-Zero Carbon Emissions) ให้ได้อย่างเต็มตัวภายในปี 2050
พลังงานเพื่อโลกที่ดีกว่า
บี.กริมได้มีส่วนสำคัญในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทยมาอย่างยาวนานโดยการสร้างโรงไฟฟ้าและธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องและในวันนี้ที่ตลาดพลังงานมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทั่วโลก เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนขึ้น บี.กริมจึงได้เริ่มยุทธศาสตร์ Green Leap ที่ตั้งอยู่บนวิสัยทัศน์ของเราเรื่องการ ‘สร้างพลังให้กับสังคมโลกด้วยความโอบอ้อมอารี’ เราต้องการสนับสนุนลูกค้าภาคอุตสาหกรรมของเราในการเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานที่สะอาดขึ้น บี.กริมจึงได้ขยายโครงการพลังงานหมุนเวียนทั้งในไทยและต่างประเทศ เรื่องนี้สำคัญมาก เพราะธุรกิจผลิตไฟฟ้าของบี.กริมนั้นนับได้ว่าเป็นหนึ่งในผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ที่สุดของประเทศ และเราก็ตั้งเป้าเป็นบริษัทผู้ผลิตพลังงานระดับโลก ดังนั้นการที่เราเดินหน้าเรื่องพลังงานสะอาดเต็มตัวจึงน่าจะเป็นผลดีกับทุกฝ่าย โดยเฉพาะสิ่งแวดล้อม เราเชื่อว่าเราจะก้าวสู่การเป็นองค์กรที่ไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Net-Zero Carbon Emissions) ได้อย่างเต็มตัวภายในปี 2050
ในหลายทศวรรษที่ผ่านมา เรียกได้ว่าครอบครัวของผมได้สร้างบี.กริมจนเติบใหญ่ในประเทศไทย แต่ในยุคต่อไป ผมตั้งใจผลักดันบี.กริมไปสู่การเป็นองค์กรระดับโลก เพราะคนไทยมีศักยภาพสูงมากๆ โดยเราไม่ได้อยากผลักดันแค่ด้านธุรกิจพลังงานเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงธุรกิจให้บริการโซลูชันในการจัดการพลังงานและเชื่อมต่อระบบภายในอาคารและภาคอุตสาหกรรม ธุรกิจสุขภาพและบริการทางการแพทย์ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ธุรกิจนวัตกรรมที่นำเสนอเทคโนโลยีทันสมัยล่าสุดเพื่อการพัฒนาสินค้าและการบริการในตลาด ไปจนถึงธุรกิจไลฟ์สไตล์ และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ผมเชื่อว่าเราสามารถก้าวไปสู่ระดับโลกได้จริง
รากฐานของสังคม
หากมองในด้านผลประโยชน์ต่อสังคมแล้ว เราไม่ได้อยากสนับสนุนแค่ในด้านที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของเราโดยตรงเท่านั้น เพราะสังคมนั้นมีความต้องการที่หลากหลายมิติมากกว่านั้น โดยเฉพาะด้านการศึกษา ซึ่งเป็นรากฐานที่จะพาสังคมไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนได้อย่างแท้จริง ดังนั้น ในวันนี้ หนึ่งในโครงการที่ผมดีใจมากที่ได้มีส่วนร่วมคือ โครงการ ‘บ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย’ ที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระดำริให้ริเริ่มในประเทศไทย หลังจากได้ทอดพระเนตรตัวอย่างโครงการ Haus der kleinen Forscher ในประเทศเยอรมนี เมื่อปี 2019 เพื่อส่งเสริมระบบการศึกษาให้มีคุณภาพและการยกระดับมาตรฐานการศึกษาวิทยาศาสตร์ของนักเรียนนักศึกษาไทยในทุกระดับชั้น ซึ่งในปัจจุบันมีโรงเรียนเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 22,000 แห่ง และพอเด็กๆ เข้าถึงการศึกษาคุณภาพได้มากขึ้น เราพบว่ามีหลายคนที่พูดว่าเมื่อโตขึ้นพวกเขาอยากเป็นนักวิทยาศาสตร์ ซึ่งก็เป็นความสำเร็จที่น่าชื่นใจ
นอกจากโครงการนี้ เรายังสนับสนุนโครงการการศึกษาและการกุศลอื่นๆ อย่างโครงการ ‘ทุนการศึกษาสมเด็จย่า 90’ ที่มอบแก่นักศึกษาพยาบาลทั่วประเทศ เพื่อสืบสานตามแนวพระปณิธานและเจตนารมณ์ทางวิชาชีพพยาบาลตามรอยสมเด็จย่า หรือโครงการอาชีวศึกษาทวิภาคีและการฝึกอบรมวิชาชีพเพื่อพัฒนาศักยภาพของนักเรียนอาชีวะ การสนับสนุนเหล่านี้อาจไม่ได้สร้างกำไรให้กับธุรกิจ แต่นี่คือความหมายของธุรกิจที่ดำเนินด้วยความโอบอ้อมอารี และผมก็มีความสุขที่ได้เห็นการสนับสนุนของเรามอบอนาคตที่สดใสให้กับหลายคนและสังคมโดยรวมได้
เรื่องที่ไม่อาจมองข้าม
ในมิติของการดูแลสิ่งแวดล้อม นอกเหนือจากเรื่องพลังงานสะอาดซึ่งเป็นธุรกิจหลักของเราอยู่แล้ว เรายังได้ดำเนินโครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูประชากรเสือโคร่งมานานแล้ว บี.กริมต้องเข้ามาใส่ใจในเรื่องนี้เพราะว่าเสือโคร่งเป็นนักล่าในตำแหน่งบนสุดของระบบห่วงโซ่อาหาร จำนวนเสือโคร่งตามธรรมชาติจึงสามารถชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศในผืนป่า และคนอาจไม่รู้ว่าประเทศไทยคือหนึ่งในไม่กี่ประเทศและเป็นประเทศเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ยังมีจำนวนเสือโคร่งในธรรมชาติมากเพียงพอต่อการฟื้นฟูจำนวนประชากร เราจึงเข้ามาทำเรื่องนี้ หากเสือโคร่งไร้การดูแลจนมีจำนวนเหลือน้อยจนไม่มีเหลืออีกแล้ว จะส่งผลต่อสมดุลของสภาพแวดล้อมทางชีวภาพโดยรวมอย่างรุนแรง และจะเป็นเรื่องยากมากที่จะฟื้นฟูสมดุลธรรมชาติให้กลับคืนมาได้อีกครั้ง ในวันนี้ที่ประเทศไทยยังมีโอกาสที่จะเพิ่มจำนวนเสือ การอนุรักษ์เสือโคร่งจึงเป็นเรื่องสำคัญกว่าที่หลายๆ คนคิดไว้
คุณค่าที่มากกว่าตัวเลข
ทุกคนรู้ว่าดนตรีไทยเป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทยและมีชื่อเสียงในวงกว้าง แต่ที่วิเศษกว่านั้น คนไทยยังมีความสามารถด้านดนตรีคลาสสิกที่โดดเด่นไม่แพ้ชาติใด ตัวผมเองหลงใหลในดนตรีมาตั้งแต่เด็กๆ จึงอยากสนับสนุนแวดวงดนตรีคลาสสิกของประเทศไทย สิ่งที่ผมภาคภูมิใจคือการร่วมพัฒนา Royal Bangkok Symphony Orchestra ในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ให้เป็นวงออร์เคสตราชั้นนำในภาคพื้นเอเชียแปซิฟิคและมีความสามารถทัดเทียมวงออร์เคสตราชั้นนำในประเทศยุโรป
เมื่อไม่นานมานี้ วงรอยัลแบงค์คอกซิมโฟนีออร์เคสตร้าฯ ได้ไปทัวร์การแสดงในยุโรป ไม่ว่าออสเตรีย เยอรมัน และฝรั่งเศส ที่ทุกคนรู้ว่าเป็นผู้นำด้านดนตรีคลาสสิกมาหลายร้อยปี รวมถึงได้แสดงในฮอลล์คอนเสิร์ตที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกที่กรุงเวียนนา ที่ผมได้เห็นว่าการแสดงอันไร้ที่ติของวงได้รับการยืนปรบมือให้เกียรตินานนับสิบนาที จากกลุ่มผู้ฟังที่ได้ชื่อว่ารู้ซึ้งถึงดนตรีอันดีเลิศ ซึ่งถือเป็นเรื่องหาได้ยากและน่าประทับใจอย่างยิ่ง สิ่งนี้ก็เหมือนโครงการอื่นๆ ของเรา คือแม้เรื่องดนตรีคลาสสิกกับธุรกิจอุตสาหกรรมและพลังงานจะดูเป็นเหมือนเส้นขนาน แต่การเกื้อหนุนให้วงดนตรีจากประเทศไทยเป็นที่ยอมรับในระดับสากลนั้น สามารถสร้างคุณค่ามหาศาลให้กับประเทศในรูปแบบที่วัดเป็นตัวเลขไม่ได้ จึงเป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญด้วยเช่นกัน
สร้างหน้าประวัติศาสตร์
เราได้นำพาสมาคมกีฬาขี่ม้าแห่งประเทศไทยมาสู่จุดที่เรียกได้ว่าดีที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และสร้างชื่อเสียงระดับสากล เราเป็นประเทศเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่พาทั้งทีมไปสู่โอลิมปิกเกมส์ได้ ทีมไทยเป็นหนึ่งใน 25 อันดับแรกของรายการ World Equestrian Games เมื่อปี 2019 ยิ่งกว่านั้นสมาคมกีฬาขี่ม้าแห่งประเทศไทยยังเป็นผู้จัดการแข่งขัน FEI Asian Championships ครั้งแรกในประเทศไทย ซึ่งเป็นสนามควอลิฟายไปสู่โอลิมปิกหนึ่งเดียวในเอเชียอีกด้วย
เรื่องน่ายินดีก็คือในโอกาสเดียวกัน ทีมชาติไทยได้โชว์ผลงานรับเหรียญมากที่สุด และยังได้รับเหรียญทองอันดับหนึ่งในการแข่งขันครั้งแรก มีผู้ชนะเป็นทีม Dressage ที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีนารีรัตนราชกัญญา ทรงร่วมแข่งขัน ผมว่านี่คือความสำเร็จ ในอนาคตเวลาเราอ่านหนังสือเกี่ยวกับ Asian Championship แน่นอนว่าจะต้องกล่าวถึงการแข่งขันครั้งแรกนี้ที่จัดขึ้นในประเทศไทย รวมถึงผู้สร้างชัยชนะให้เกิดขึ้น แล้วคนก็จะได้ทราบว่าคนไทยได้แสดงฝีมืออย่างโดดเด่นจนปรากฏในหน้าประวัติศาสตร์
ไม่มีใครปฏิเสธว่าผลการดำเนินธุรกิจก็เป็นเรื่องสำคัญที่จะทำให้กิจการดำเนินต่อไปได้ แต่ผมก็เชื่อมั่นอย่างยิ่งในเรื่องคุณค่าของการสนับสนุนผู้คนในสังคมให้ไปสู่ความสำเร็จในแนวทางของพวกเขาเอง เพราะสุดท้ายแล้ว เราก็เป็นส่วนหนึ่งของสังคม เราจะคิดแค่เรื่องประโยชน์ของธุรกิจอย่างเดียวไม่ได้ เรากับสังคมต้องเติบโตไปพร้อมๆ กัน จึงสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน ■
รู้จักกับ ดร.ฮาราลด์ ลิงค์
ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ จบการศึกษาปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจจาก University of St.Gallen ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นทายาทรุ่น 3 ของครอบครัวลิงค์ผู้ก่อตั้งอาณาจักร บี.กริมในประเทศไทย ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธาน บี.กริม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริมเพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) ควบคู่กับตำแหน่งในองค์กรอื่น และเป็นผู้สนับสนุนกิจกรรมขององค์กรและมูลนิธิต่างๆ ที่ช่วยสร้างสรรค์ประโยชน์ให้สังคมไทย