HOME ISSUE

SECTION

ABOUT

LIVING SPACE


Castles on the Cloud

ลงลึกรายละเอียดและขั้นตอนพิถีพิถันในการรังสรรค์คอนโดที่อยู่อาศัยระดับลักชัวรีของกรุงเทพฯ

แม้กาลเวลาจะนำพามาซึ่งความเปลี่ยนแปลง แต่เสน่ห์มนต์ขลังของถนนวิทยุนั้นยังคงเป็นที่สัมผัสได้ ถนนสายประวัติศาสตร์นี้เรียงรายไปด้วยต้นไม้ใหญ่ซึ่งให้ร่มเงาแก่ผู้คนที่สัญจรไปมาตลอดหลายทศวรรษ บ้านเก่าสมัยรัชกาลที่ 6 ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นที่พำนักของเหล่าคหบดีชนชั้นสูงของประเทศยังคงปรากฏสลับกับตึกสูงระฟ้าสมัยใหม่ การผสมผสานกันขององค์ประกอบเหล่านี้ ทำให้ไม่เป็นเรื่องน่าแปลกใจเลย หากหลายคนจะเปรียบเปรยถึงถนนวิทยุว่าเป็น ‘ฟิฟธ์ อเวนิวของกรุงเทพฯ’

กระนั้น เสน่ห์วันวานก็ไม่ได้ชะลอกระแสความเปลี่ยนแปลงที่คืบคลานเข้ามา ปัจจุบัน บ้านและวังเก่าหลายแห่งถูกแทนที่ด้วยคอนโดหรูที่ตั้งตระหง่านท่ามกลางสถานทูต ร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ และโรงแรมห้าดาว ด้วยจำนวนพื้นที่ที่ดินแบบขายขาด (freehold) ที่มีจำนวนอยู่น้อยนิดและบรรยากาศมีระดับ ทำให้ถนนวิทยุเป็นหนึ่งในย่านที่มีราคาแพงและเป็นที่หมายปองมากที่สุดในกรุงเทพมหานคร เห็นได้จากในปี 2561 ซึ่งราคาที่ดินบนถนนวิทยุพุ่งสูงถึงเกือบ 2 ล้านบาทต่อตารางวา

เป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วที่โครงการพัฒนาใดๆ ก็ตามที่ผุดขึ้นบนถนนเส้นนี้มักกลายเป็นที่ร่ำลือในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ เห็นได้จากเสียงฮือฮาในปี 2553 เมื่อบริษัทแสนสิริ จำกัด (มหาชน) ยักษ์ใหญ่แห่งวงการอสังหาฯ ประกาศเปิดตัวโครงการ 98 Wireless ซึ่งเป็นโครงการอยู่อาศัยล่าสุดบนถนนวิทยุ “การประกาศเปิดตัวของเรากลายเป็นข่าวใหญ่ในตอนนั้น” นพปฎล พหลโยธิน ประธานบริหารฝ่ายสร้างสรรค์ของบริษัท แสนสิริฯ เกริ่นพร้อมเล่าต่อว่า “ที่ดินผืนนี้เป็นที่ดินผืนสุดท้ายบนถนนวิทยุที่สามารถซื้อขาดได้ มูลค่าของที่ดินจึงมีราคาสูงมาก เรารู้ทันทีว่าต้องทำให้โครงการนี้เป็นที่จดจำ”

โครงการ 98 Wireless นั้นเสร็จสมบูรณ์ในปี 2560 และกลายเป็นชื่อแรกๆ ที่ผู้คนจะนึกถึงยามกล่าวถึงคอนโดมิเนียมระดับ ‘อัลตร้าลักชัวรี’ ของกรุงเทพฯ อาคารอยู่อาศัยสูง 25 ชั้นแห่งนี้ ได้รับการออกแบบในสถาปัตยกรรมโบซาร์ (Beaux-Arts) รูปแบบสถาปัตยกรรมอันเป็นที่นิยมในมหานครนิวยอร์กในช่วงยุค ’30s ภายในถูกออกแบบให้มีความโปร่งโล่งมากกว่าจะเน้นบรรจุจำนวนพื้นที่ขาย โดยประกอบด้วยห้องขนาด 2 ถึง 4 ห้องนอน รวมทั้งเพนท์เฮ้าส์ 2 หลังและซูเปอร์เพนท์เฮ้าส์ 1 หลังบนสองชั้นสูงสุด รวมเป็นจำนวนห้องของทั้งโครงการเพียง 77 ยูนิตเท่านั้น ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับโครงการอสังหาฯ ทั่วไปในพื้นที่ขนาดใกล้เคียงกันที่มักจะมีจำนวน 200 ยูนิตขึ้นไป ยิ่งกว่านั้น ห้องซูเปอร์เพนท์เฮาส์ที่ราคาสูงกว่า 720,000 บาท ต่อตารางเมตรยังสามารถปิดการขายไปแทบทันทีที่เปิดโครงการ และครองสถิติคอนโดที่แพงที่สุดในกรุงเทพฯ จนทุกวันนี้

ความหรูหรามีรสนิยมนั้นแทรกซึมอยู่ทุกอณูการออกแบบและตกแต่งคอนโดแห่งนี้ ซึ่งทางโครงการได้ร่วมงานกับบริษัทสถาปนิกที่มีชื่อเสียงระดับโลก Design Worldwide Partnership (DWP) สาขาประเทศไทย ภายในคอนโดเต็มไปด้วยวัสดุและการออกแบบชั้นเยี่ยม นับตั้งแต่ลูกบิดประตูทองเหลืองแท้ทำมือจาก Baldwin งานตกแต่งเพดานและผนังของบริษัทออกแบบเก่าแก่ Hyde Park Mouldings จากนิวยอร์ก ไปจนถึงบานประตูทำจากวัสดุหายากอย่างง่ามไม้มะฮอกกานี ยังไม่นับงานตกแต่งภายในซึ่งเป็นผลงานสร้างสรรค์ของอินทีเรียร์ดีไซน์เนอร์ แอน คาร์สัน ร่วมกับ Ralph Lauren Home ตลอดจนพื้นที่สวนด้านนอกโดย TROP บริษัทออกแบบภูมิสถาปัตยกรรมชื่อดังของไทย นอกจากนี้ เศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการของแสนสิริ ยังบินไปเลือกเฟ้นแผ่นหินอ่อนลาย statuario ที่เหมืองในประเทศอิตาลีด้วยตนเอง เพื่อนำมาใช้ตกแต่งกำแพงของพื้นที่ส่วนกลางและห้องน้ำแต่ละยูนิตอีกด้วย “เราทุ่มสุดตัว เพราะอยากให้โครงการนี้ออกมาพิเศษที่สุด ตั้งแต่เริ่มพัฒนาจนก่อสร้างโครงการเสร็จสมบูรณ์ เราใช้เวลาทั้งหมด 7 ปี ขณะที่คอนโดมิเนียมส่วนใหญ่จะใช้เวลาประมาณ 3 ปีเท่านั้น เราพิถีพิถันให้ผลลัพธ์ออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด” เศรษฐาเล่าขณะนั่งในอิริยาบถสบายๆ บนโซฟากำมะหยี่ในล็อบบี้โอ่โถงของโครงการ ก่อนจะกล่าวเสริมว่า “พูดได้เลย เราไม่ได้แค่สร้างคอนโดนี้ เรา ‘คราฟต์’ มันขึ้นมา”

ตลาดอสังหาริมทรัพย์ระดับลักชัวรีในกรุงเทพฯ นั้นเติบโตแบบก้าวกระโดดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โดยการสร้างที่อยู่อาศัยระดับ ‘ซูเปอร์ลักชัวรี’ ซึ่งรวมถึงโครงการอย่าง 98 Wireless นั้นเพิ่งเริ่มแพร่หลายเมื่อไม่กี่ปีมานี้ สังเกตได้จากโครงการอสังหาฯ ระดับบนที่เกิดขึ้นเฉลี่ยประมาณ 2,500-3,700 ยูนิตต่อปี ส่งผลให้ทำเลทองตามแนวรถไฟฟ้าและย่านใจกลางเมืองเริ่มขาดแคลน จนกระทั่งราคาที่ดินแบบขายขาดบนถนนวิทยุนั้นพุ่งสูงขึ้นถึง 2.5 ล้านบาทต่อตารางวาเช่นเดียวกับสถานการณ์ของตลาดอสังหาฯ ในฮ่องกง ราคาที่ดินในกรุงเทพฯ นั้นมีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี อย่างเพนท์เฮาส์ของโครงการ 98 Wireless นั้นก็ได้แย่งตำแหน่งคอนโดมิเนียมที่มีราคาสูงที่สุดในประเทศจาก The Residences at Mandarin Oriental โครงการคอนโดมิเนียมติดกับศูนย์การค้าไอคอนสยาม ทั้งที่เดอะ เรสซิเดนซ์ฯ ก็เพิ่งทุบสถิติของโครงการ Diplomat 39 ในย่านพร้อมพงษ์มาอย่างหมาดๆ ขณะเดียวกันรายงานของบริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาฯ CBRE Thailand นั้นระบุว่าราคาที่ดินในย่านสุขุมวิทตอนกลางนั้นพุ่งสูงกว่า 25-30% ในแต่ละปี ซึ่งอาจไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจนัก เพราะจากสถิติของเว็บไซต์ฐานข้อมูล Numbeo ปัจจุบัน ค่าครองชีพและราคาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ นั้นแพงติดอันดับสองของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  ตามหลังเพียงสิงคโปร์เท่านั้น ตัวเลขที่พุ่งสูงขึ้นต่อเนื่องนี้เอง ทำให้หนึ่งในทางออกสำคัญคือการสร้างโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะส่งผลให้เกิดภาพลักษณ์แง่ลบต่อโครงการที่อยู่อาศัยระดับไฮเอนด์ทั้งหลาย

โครงการ 98 Wireless กลายเป็นชื่อแรกๆ ที่ผู้คนจะนึกถึงยามกล่าวถึงคอนโดมิเนียมระดับ 'อัลตร้าลักชัวรี' ของกรุงเทพฯ

นอกจากนี้ บริษัทอสังหาฯ ทั้งในและต่างประเทศยังออกมาเตือนด้วยว่ากรุงเทพฯ นั้นกำลังเผชิญกับภาวะอสังหาฯ ล้นตลาด กระนั้น บรรดาผู้พัฒนาอสังหาฯ หรือ ‘ดีเวลลอปเปอร์’ ในประเทศก็ยังต่างเร่งเดินหน้าพัฒนาโครงการใหม่ๆ ออกมาอย่างไม่ขาดสาย เพราะเมื่อเทียบกับผู้ซื้ออสังหาฯ จากประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคแล้ว ผู้บริโภคชาวไทยนิยมซื้อคอนโดมือหนึ่งมากกว่ามือสอง “ลูกค้าไม่ได้มีแค่กลุ่มเดียว ลูกค้าของเรามีตั้งแต่นักธุรกิจรายใหญ่ แพทย์ ไปจนถึงเจ้าของกิจการต่างชาติและนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จในตลาดหลักทรัพย์ แต่ถึงแม้ว่ากลุ่มลูกค้าของเราจะหลากหลาย ทุกคนก็คิดตรงกันว่าโครงการในลักษณะนี้หายาก พวกเขารู้ว่านี่จะเป็นโครงการคอนโดมิเนียมที่ดีที่สุดของแสนสิริ ใครๆ ก็เลยอยากเป็นเจ้าของอย่างน้อยสักห้อง” เศรษฐาอธิบาย

ผู้ถือครองกรรมสิทธิ์โครงการ 98 Wireless นั้นกว่า 80% เป็นคนไทย และสำหรับผู้คนเหล่านี้มาตรฐานของโครงการระดับลักชัวรีดูเหมือนจะสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยในแต่ละปีบรรดาดีเวลลอปเปอร์จะงัดไม้เด็ดมาแข่งกันในเรื่องความหรูหราผ่านการร่วมมือกับบริษัทสถาปนิกชื่อก้องโลก สตูดิโอตกแต่งภายในระดับไฮเอนด์ และเหล่าแบรนด์ซึ่งมีชื่อเสียงในอุตสาหกรรมการบริการ เช่นงานตกแต่งภายในของเดอะ เรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียนเต็ลนั้น เป็นผลงานของดีไซเนอร์ระดับตำนานแห่งเกาะฮ่องกงอย่างจอยซ์ หวัง ส่วนโครงการ Magnolias Ratchadamri Boulevard ที่ตั้งอยู่ในโรงแรมห้าดาว Waldorf Astoria ซึ่งเพิ่งสร้างเสร็จไปเมื่อไม่นานมานี้ ก็เลือกใช้บริการของแบรนด์ยุโรปที่เก่าแก่มีชื่อเสียงอย่าง Franke, Siemens, Bulthaup และ Kasch มาช่วยในการออกแบบติดตั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าและวัสดุกำแพงหิน โครงการดังกล่าวเพิ่งสร้างเสร็จไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมาและถูกขายไปแล้วกว่า 80% ด้วยความพิถีพิถันในทุกรายละเอียดนี้เอง ทำให้เป็นเรื่องปกติที่ผู้พัฒนาอสังหาฯ จะใช้เวลามากกว่า 5 ปีขึ้นไปสำหรับวางแผน ออกแบบ และก่อสร้างคอนโดลักชัวรีสักแห่ง ซึ่งถือว่านานกว่าเวลาเฉลี่ยในการสร้างคอนโดมิเนียมทั่วไปอยู่มาก

อีกหนึ่งคอนโดมีเนียมลักชัวรีที่น่าจับตามองและมีกำหนดจะเปิดตัวในปีนี้คือ โครงการ The Residences at Sindhorn Kempinski Hotel Bangkok ซึ่งมีหัวเรือใหญ่เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังของไทย August Design Consultant ในแต่ละยูนิตของโครงการนี้นั้น พื้นครัวจะปูด้วยวัสดุหินอ่อนเงาวับกลมกลืนกับเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์บิวท์อินจาก Liebherr ขณะที่ห้องนอนหลักจะปูด้วยพื้นไม้วอลนัทจากอเมริกาและมาพร้อมตู้เสื้อผ้าแบบวอล์คอินที่แบ่งส่วนหญิงชาย อันเป็นฝีมือออกแบบของ Poliform ภายในพื้นห้องน้ำในห้องนอนหลักนั้นปูด้วยหินอ่อนและมาพร้อมอ่างล้างหน้าจากแบรนด์สัญชาติเยอรมัน Duravit ส่วนก๊อกน้ำและโถสุขภัณฑ์นั้นทางโครงการเลือกใช้แบรนด์ Axor-Hansgrohe และ Toto ที่มาพร้อมฝารองนั่งที่เปิดปิดอัตโนมัติ ซึ่งเป็นชื่อแบรนด์ที่เหล่าคอนโดระดับซูเปอร์ลักชัวรีหลายโครงการมักเลือกใช้

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากขั้นตอนต่างๆ นับตั้งแต่การเฟ้นหาทำเลที่ดีที่สุด ไปจนถึงการจ้างนักออกแบบชื่อก้องโลกและวัสดุราคาแพงนั้น ดูจะเป็นมาตรฐานที่คอนโดลักชัวรีทุกแห่งยกมาเป็นจุดขาย อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้คอนโดลักชัวรีสร้างความแตกต่างจากโครงการอื่นๆ ได้ก็คือการสร้างประสบการณ์การอยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้ซื้อ ปัจจุบันบรรดาดีเวลลอปเปอร์เริ่มมุ่งความสำคัญไปที่เรื่องไลฟ์สไตล์เป็นอันดับต้นๆ โดยหลายรายนั้นได้ยกระดับมาตรฐานบริการและความสะดวกสบายให้เหนือกว่าโรงแรมระดับโลก อย่างโครงการ 98 Wireless นั้นมีบริการรถลิมูซีนเบนท์ลีย์ประจำโครงการ และที่จอดรถใต้ดินที่สามารถรองรับได้ถึง 240% ของจำนวนยูนิตทั้งหมด อีกทั้งยังมีบริการผู้ช่วยส่วนตัวจากบริษัท Quintessentially ซึ่งเคยจัดงานสำคัญๆ ให้กับราชวงศ์อังกฤษมาแล้ว เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกบ้านแบบครบวงจร  “ปัจจุบัน ความลักชัวรีต้องหมายถึงความเป็นส่วนตัวด้วย” สรรพสิทธิ์ ฟุ้งเฟื่องเชวง ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์แบรนด์องค์กร บริษัท เอพี ไทยแลนด์ กล่าว “เราอาศัยอยู่ในโลกที่ทุกคนหมกมุ่นกับการแชร์เรื่องราวทุกอย่างลงโซเชียลมีเดีย แต่กระแสมันกำลังค่อยๆ เปลี่ยน คนเริ่มอยากได้ความเงียบสงบและเป็นส่วนตัวมากขึ้น”

ประสบการณ์เหนือระดับนี้เองช่วยให้โครงการอสังหาฯ​ ระดับลักชัวรีในกรุงเทพฯ ได้รับความสนใจท่วมท้นจากบรรดาสื่อทั้งในและต่างประเทศ และอีกหนึ่งปัจจัยที่มาช่วยให้เหล่าดีเวลลอปเปอร์สามารถปิดการขายได้ง่ายขึ้น คือราคาที่น่าดึงดูด หากเทียบราคากันแล้ว คอนโดหรูสักแห่งในฮ่องกงนั้นมีราคาต่อตารางเมตรสูงกว่าโครงการอสังหาฯ ระดับเดียวกันในกรุงเทพฯ ถึง 8 เท่า โครงการเหล่านี้จึงกลายเป็นที่หมายปองของบรรดาเศรษฐีจากจีน ยุโรป และอเมริกาเหนือ “ลูกค้าที่มีฐานะมองว่าการซื้ออสังหาฯ ระดับซูเปอร์ลักชัวรีในไทยเป็นการลงทุนอย่างหนึ่ง” ดาริล ลัม แห่ง Invest Property Bangkok กล่าว เขาคือเจ้าของเว็บไซต์ออนไลน์ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนอสังหาฯ ในไทยสำหรับชาวต่างชาติ “ในช่วงปีที่ผ่านมา เงินบาทไทยนั้นแข็งค่าที่สุดในเอเชีย ปัจจัยดังกล่าวได้สร้างความเชื่อมั่นในหมู่นักลงทุนกระเป๋าหนัก โดยเฉพาะจากประเทศเพื่อนบ้าน”

อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้คอนโดลักชัวรีสร้างความแตกต่างจากโครงการอื่นๆ ได้ก็คือการสร้างประสบการณ์การอยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้ซื้อ

การทำการตลาดนอกประเทศของโครงการอสังหาฯ เหล่านี้มักมุ่งเน้นไปที่กลุ่มชาวจีนผู้มีฐานะที่มองหาช่องทางการลงทุนในต่างประเทศเพื่อกระจายความเสี่ยง เหล่าผู้พัฒนาอสังหาฯ ชาวไทยบางรายถึงขั้นลงทุนเปิดสาขาในต่างแดน (อย่างแสนสิริ ที่มีออฟฟิศทั้งในฮ่องกงและสิงคโปร์) และทุ่มงบซื้อพื้นที่สื่อต่างประเทศ ดังเช่นที่แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น (MQDC) ได้ซื้อโฆษณาในหนังสือพิมพ์ South China Morning Post เพื่อโปรโมทโครงการระดับแฟล็กชิป แมกโนเลียส์ ราชดำริ บูเลอวาร์ด ในฮ่องกง

นอกเหนือจากรายละเอียดของการก่อสร้างและตกแต่ง การจับมือกับแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักในระดับโลกอยู่แล้วก็ถือเป็นกลยุทธ์สำคัญในการเจาะกลุ่มมหาเศรษฐีในฮ่องกง สิงคโปร์ หรือกระทั่งดูไบ เห็นได้ชัดจากการที่โครงการ The Ritz-Carlton Residences บนตึกคิงพาวเวอร์ มหานคร ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากลูกค้ากลุ่มนี้แน่นอน อาคารสูง 314 เมตรแห่งนี้มาพร้อมเอกลักษณ์ในเรื่องดีไซน์ โดยตึกแต่ละด้านนั้นถูกออกแบบให้มีขนาดไม่เท่ากัน ทำให้แต่ละชั้นนั้นมีแปลนและการวางผังที่ต่างกันออกไป แต่จุดขายหลักจริงๆ คือการที่ตัวโครงการนั้นบริหารจัดการโดยกลุ่ม Ritz-Carlton เพราะในเมื่อห้องแต่ละยูนิตจะได้รับการตกแต่งราวกับเป็นห้องสวีทในโรงแรมห้าดาวอยู่แล้ว การเพิ่มบริการเข้าไปจึงเพียงแต่ทำให้ประสบการณ์การเข้าพัก ‘โรงแรมที่ไม่ต้องเช็คเอาท์’ นี้สมบูรณ์แบบมากขึ้น

“โครงการอยู่อาศัยที่จับมือกับแบรนด์โรงแรมหรูนั้นดี เพราะมันตอบโจทย์ด้านไลฟ์สไตล์ที่มาพร้อมการบริการอย่างที่ลูกค้ากลุ่มนี้ให้ความสำคัญ” เบน เตชะอุบล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารแห่ง Country Group Development ซึ่งมีแผนที่จะเปิดตัว Four Seasons Private Residences ในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ กล่าว “หัวใจคือความชัดเจนในวิสัยทัศน์ของโครงการ ไม่ใช่การเพิ่มจำนวนยูนิตให้มากที่สุด หรือการใส่รายละเอียดฟุ่มเฟือย ลูกค้าของเรารู้ว่านี่คือโอกาสทองที่ไม่มีมาให้เห็นบ่อยนัก

โฟร์ซีซั่นส์ ไพรเวท เรสซิเดนซ์ นั้นเป็นส่วนหนึ่งของ Chao Phraya Estate โครงการหรูริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยามูลค่า 32,000 ล้านบาทในย่านเจริญกรุง ที่ประกอบด้วยตึกสูงซึ่งเป็นส่วนที่พักอาศัย ขนาบข้างด้วยพื้นที่ส่วนโรงแรมของ Four Seasons และโรงแรมหรูอีกแห่งอย่าง Capella Bangkok โดยส่วนโครงการที่พักอาศัยนั้นถูกวางไว้ให้เป็นหนึ่งในที่อยู่อาศัยระดับไฮเอนด์ของกรุงเทพฯ ห้องทั้ง 366 ยูนิตของอาคารหุ้มกระจกสูง 73 ชั้นเหนือแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งนี้ จะมีพื้นที่หัวมุมตึกทุกห้อง ทำให้สามารถมองเห็นทัศนียภาพกรุงเทพฯ ได้รอบด้าน นับเป็นลูกเล่นทางดีไซน์แปลกใหม่ที่ทำให้คันทรี่กรุ๊ปสามารถปิดการขายได้แล้วเป็นจำนวน 380 ล้านบาทจากนักลงทุนชาวฮ่องกงตั้งแต่โครงการยังไม่ทันเริ่มสร้าง โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งการโฆษณาหวือหวาแต่อย่างใด หัวเรือใหญ่ของโครงการอย่างเบนเพียงแค่สร้างความประทับใจด้วยการจัดดินเนอร์มื้อหรูให้กับลูกค้าที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ ฮ่องกงเท่านั้นเอง

ในขณะที่การทำอย่างนี้ค่อนข้างเกินความพอดีของคนจำนวนไม่น้อย สำหรับลูกค้าของโครงการอย่างโฟร์ซีซั่นส์ ไพรเวท เรสซิเดนซ์ นี่อาจเป็นส่วนหนึ่งของความคุ้มค่าที่ขาดไม่ได้สำหรับเม็ดเงินที่ต้องจ่าย ไม่ต่างอะไรกับทำเล การตกแต่งภายใน บริการหรือสิ่งอำนวยความสะดวกอีกสารพันที่ผู้เชี่ยวชาญได้จัดสรรมาให้เสร็จแล้วในราคาเดียว

ต้องไม่ลืมว่าในวิถีชีวิตที่การงานมีมากเกินความสงบไปไกล ความทุ่มเทและรายละเอียดที่ถูกบรรจุอยู่อย่างประณีตเปี่ยมรสนิยมในคอนโดเหล่านี้ คือรางวัลชีวิตที่แลกด้วยราคาเท่าไหร่ก็ดูจะคุ้มค่าทั้งนั้น

Essentials


98 Wireless

98 ถนนวิทยุ กรุงเทพฯ

bit.ly/2HxFC6z

Four Seasons Private Residences

64 ถนนเจริญกรุง กรุงเทพฯ

fb.com/FSPRBangkok

Magnolias Ratchadamri Boulevard

ถนนราชดําริ กรุงเทพฯ

bit.ly/2VYampZ

The Diplomat 39

18 ซอยสุขุมวิท 39 ถนนสุขุมวิท กรุงเทพฯ

thediplomat-39.com

The Residences at Mandarin Oriental

ถนนเจริญนคร กรุงเทพฯ

moresidencesbangkok.com

The Residences at Sindhorn Kempinski

65 ซอยหลังสวน ถนนเพลินจิต กรุงเทพฯ

bit.ly/2EtDria

The Ritz-Carlton Residences

t114 ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ กรุงเทพฯ

rcr-bangkok.com